‘ทีทีเอฟ’จัดงาน‘บัสแอนด์ทรัค’
กระตุ้นการค้าช่วยหนุนระเบียงอีอีซี
“ทีทีเอฟ” ลุยจัดงาน “บัสแอนด์ทรัค 2017” เปิดเวทีเจรจาการค้าระหว่างประเทศให้คนในวงการขนส่ง ช่วยหนุน โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC รองรับการลงทุนอุตสาหกรรม ชี้! ยิ่งทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ และ ชิ้นส่วนยานยนต์ หรือศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาค ผลักดันการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ก้าวสู่ประเทศไทย 4.0 คาดเงินสะพัด 600 ล้าน.
นายศุภแมน มรรคา รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีทีเอฟ อินเตอร์เนชั่นเนล จำกัด กล่าวว่า ได้เตรียมจัดงาน "บัสแอนด์ทรัค 2017" (BUS & TRUCK ‘17) ระหว่างวันที่ 2 – 4 พฤศจิกายน 2560 ที่ EH106 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค ซึ่งถือเป็นเวทีสำหรับคนในวงการขนส่งที่จะได้มีโอกาสพบปะกับผู้ผลิต ทั้งในส่วนของผู้ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่ และ ผู้จัดจำหน่าย ที่จะมารวมตัวกันแสดงนวัตกรรมจากทั่วโลก
ทั้งนี้ จะมีค่ายรถใหญ่ชั้นนำต่างๆ มารวมตัวกันที่นี่ อาทิ เมอร์เซเดส-เบนซ์, ฮีโน, โฟตอน, ไอวีโก้, MAN ฯลฯ ซึ่งค่ายเหล่านี้จะนำยานยนต์ที่เหมาะกับการใช้งานในรูปแบบต่างๆ มาให้ผู้ชมงานได้เลือกใช้ และยังมีนวัตกรรมที่จะมาเปิดตัวในงานเป็นครั้งแรก เช่น เครื่องเสียง 24V เจ้าเดียวในประเทศไทยของ Distar ที่ถูกออกแบบมาใช้กับรถเพื่อการพาณิชย์โดยเฉพาะ, รวมถึง Fersa ตลับลูกปืนล้อรถขนส่งขนาดใหญ่จากประเทศสเปน ก็จะมีมาให้ชมในงานนี้อีกด้วย
โดยผู้เข้าชมงานจะได้พบกับนวัตกรรมเพื่อการขนส่งจากหลากหลายประเทศ เพื่อต่อยอดธุรกิจในอนาคต อาทิ มีสินค้าในกลุ่ม GPS Tracking เตรียมขนระบบ GPS Tracking มาโชว์ทั้ง Solution สำหรับรถขนส่งสาธารณะ, มีการจัดการขนส่งรูปแบบใหม่ เช่น การติดตามและตรวจสอบยานพาหนะแบบเรียลไทม์ด้วยระบบ 3G ผ่านระบบคลาวด์ เพื่อลดต้นทุนในดำเนินธุรกิจ พร้อมด้วยสินค้าอะไหล่, เครื่องมือช่างแบบไร้สายจากญี่ปุ่นแบรนด์ Makita, ผ้าใบสไลด์ด้านข้างคลุมรถบรรทุก, ยางรถใหญ่ และอื่นๆ อีกมากมายมาย
นอกจากนี้ ผู้เข้าชมงานจะได้อัพเดทเทคโนโลยี รวมถึงสามารถทดสอบผลิตภัณฑ์ได้ด้วยตัวเองแล้ว ยังมีโอกาสได้ร่วมรับฟังสัมมนาจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญในวงการขนส่ง รวมถึงรับชมกิจกรรมบันเทิงต่างๆ อาทิ THAILAND TOUR THEQUE การประชันและแสดงโชว์ แสง-สี-เสียง รถโดยสาร ที่เดียวในโลก และ TRUCK LIGHT SHOW การรวมพลผู้ชื่นชอบในการแต่งสวยรถบรรทุก ที่จะมาอวด แสง-สี ครั้งยิ่งใหญ่
อีกทั้งยังมีกิจกรรม Test Drive ที่ค่ายรถใหญ่ชั้นนำหลากหลายแบรนด์รถ มาให้ทดลองขับเพื่อทดสอบสมรรถนะ ที่สำคัญ ผู้แสดงสินค้าต่างๆ เตรียมโปรโมชั่นพิเศษ ทั้งด้านราคาและบริการ ส่วนลด รวมถึงสิทธิพิเศษอีกมากมายที่จัดเต็มเป็นพิเศษเพื่องานนี้โดยเฉพาะ
“เรามุ่งหวังให้งานนี้เป็นเวทีให้คนในวงการได้มีโอกาสแสดงสินค้านวัตกรรมและสร้างโอกาสในการพบปะกับผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย และผู้ผลิตชิ้นส่วนและอะไหล่จากหลากหลายประเทศ โดยภายในงานจะมีรถใหญ่จากหลากหลายค่ายชั้นนำมารวมตัวในที่เดียว ส่วนแนวโน้มของธุรกิจด้านรถเพื่อการพาณิชย์ ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซที่กำลังมาแรง และการผลักดันจากภาครัฐที่พร้อมสนับสนุนการลงทุนในด้านการส่งออกอย่างเต็มที่ ผลักดันให้ธุรกิจนี้เดินหน้าอย่างรวดเร็ว ผู้ประกอบการต่างพยายามคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งนอกจากนวัตกรรมที่สามารถช่วยส่งเสริมธุรกิจ ให้ผู้ประกอบการได้แสดงศักยภาพประชันเทคโนโลยี นวัตกรรม เปิดโอกาสเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งที่ช่วยสนับสนุน “โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก” หรือ EEC รองรับการลงทุนอุตสาหกรรม ที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ และ ชิ้นส่วนยานยนต์ หรือ “Detroit of the East” เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาค เป็นแรงผลักดันขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ก้าวสู่ ‘ประเทศไทย 4.0’ อีกด้วย
นายศุภแมน กล่าวว่า จากธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่กำลังมาแรง ผนวกกับการผลักดันจากภาครัฐที่พร้อมสนับสนุนการลงทุนในด้านการส่งออกอย่างเต็มที่ เช่น ในโครงการ EEC ล้วนเป็นปัจจัยผลักดันให้ธุรกิจรถเพื่อการพาณิชย์นั้น เดินหน้าอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาค ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ก้าวสู่‘ประเทศไทย 4.0
สำหรับงานบัสแอนด์ทรัค 2017 (BUS & TRUCK ’17) ปีนี้จะมุ่งตอกย้ำความเป็นศูนย์กลางการขนส่งของภูมิภาค ด้วยการนำเทคโนโลยีจากผู้ประกอบการทั่วทุกมุมโลก มาเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการโลจิสติกส์ และช่วยลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งงานนี้มีผู้ประกอบการตอบรับเข้าร่วมจัดแสดงงานแล้วกว่า 100 ราย แบ่งเป็นผู้ประกอบการจากต่างประเทศ 20% ที่เหลือเป็นผู้ประกอบการจากคนไทย และคาดว่าจะมีเงินสะพัดจากยอดจองและยอดขายภายในงานไม่ต่ำกว่า 600 ล้านบาท จากจำนวนผู้เข้าชมงานตลอด 3 วัน ที่คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 10,000 คน
“งานแสดงรถเพื่อการพาณิชย์และกิจการพิเศษ ครั้งที่ 14 มีขึ้นตั้งแต่เวลา 11.00 – 19.00 น. ระหว่างวันที่ 2 - 4 พฤศจิกายน 2560 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพฯ บนพื้นที่กว่า 15,000 ตารางเมตร ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ กรมการขนส่งทางบก, สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย, สมาคมขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ไทย, สมาคมผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ, สมาคมอุตสาหกรรมตัวถังรถบรรทุกและรถพ่วงไทย, สมาคมผู้ประกอบการชิ้นส่วนยานยนต์และอะไหล่ทดแทนไทย, สมาคมสหมิตรการซ่อมรถยนต์แห่งประเทศไทย, สมาคมระบบขนส่งและการจราจรอัจฉริยะไทย, สมาคมชิปปิ้งแห่งประเทศไทย เป็นต้น”