‘มาสเตอร์คูล’ลุยธุรกิจสีเขียว
มุ่งจับลูกค้าองค์กรเป็นหลัก
"มาสเตอร์คูล" ลุยธุรกิจประหยัดพลังงานและสิ่งแวดล้อม เปิดบริษัทลูก "อินโนว์ กรีน โซลูชั่น" ด้วยทุนจดทะเบียน 30 ล้าน. ปั้นระบบโอโซนที่ช่วยประหยัดพลังงานจากเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ ช่วยแก้ปัญหาเรื่องกลิ่นและบำบัดน้ำเสีย หวังจับลูกค้าองค์กรในอุตสาหกรรม โรงพยาบาล โรงแรม ห้างสรรพสินค้า แบบบริการให้เช่าเป็นหลัก คาดในปี 2563 กวาดรายได้ทะลุ 300 ล้าน. สัดส่วนให้เช่าเพิ่มจาก 5% เป็น 60%
นายนพชัย วีระมาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้แตกไลน์ธุรกิจระบบประหยัดพลังงานและสิ่งแวดล้อม ช่วง 4 ปีที่ผ่านมาจึงใช้ทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท เปิดบริษัทลูก อินโนว์ กรีน โซลูชั่น จำกัด เพื่อนำระบบโอโซนแบรนด์อิกรีน เข้าไปติดตั้งในลูกค้าองค์กรต่าง ๆ ซึ่งช่วยให้ประหยัดพลังงานจากเครื่องปรับอากาศได้ 8% รวมทั้งช่วยแก้ปัญหาเรื่องกลิ่นและบำบัดน้ำเสีย โดยเน้นให้เช่าแล้วคิดค่าบริการรายเดือนเป็นหลัก ตั้งเป้าหมายปี 2563 มีรายได้ 300 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนเช่าเพิ่มจาก 5% เป็น 60%
"ตลาดทั้งภาครัฐและเอกชน มีการเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปรับตัวของธุรกิจและภาคบริการในประเทศได้ให้ความสำคัญในเรื่องการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะถือเป็นต้นทุนหลักอีกด้านหนึ่งของการดำเนินธุรกิจ ส่งผลให้ภาคเอกชนหันมาให้ความสนใจในเรื่องการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในอาคารและสำนักงาน เพื่อลดการใช้พลังงาน และยังช่วยลดต้นทุนการผลิต ส่วนการบำบัดน้ำเสียและกลิ่นเหม็นจากโรงงานยางและโรงงานอาหารสัตว์ ก็เป็นอีกปัญหาที่ต้องตระหนักด้วยเช่นกัน ทำให้บริษัทมองเห็นโอกาสในตลาดโดยตั้งบริษัทลูกขึ้นมาดำเนินงาน"
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีลูกค้าแล้ว 30 - 40 ราย เป็นกลุ่มเครื่องปรับอากาศที่ใช้น้ำระบายความร้อน อาทิ โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า และโรงแรม, กลุ่มบำบัดน้ำเสีย อาทิ การประปาภูมิภาค เบทาโกร กลุ่มเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) โรงงานอุตสาหกรรมแถบภาคตะวันออกที่เจอปัญหาโลหะหนักเยอะนำไปติดตั้งให้ เพื่อเปลี่ยนจากน้ำเสียเป็นน้ำประปาที่ใช้งานได้ทันที และกลุ่มบำบัดกลิ่น ในโรงงานยางพาราที่มีเกือบทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม การเน้นให้เช่าเป็นหลัก เพราะช่วยให้บริษัทมีรายได้ต่อเนื่องไม่ต้องเหนื่อยกับการขายตลอดเวลาและยังเป็นบริการให้ลูกค้าทดลองใช้ก่อนตัดสินใจซื้อ เนื่องจากสินค้ามีมูลค่าสูงถึง 2 ล้านบาท ลูกค้าสามารถคุ้มทุนในเวลา 2 ปี ซึ่งเห็นผลนานเกินไปทำให้ลูกมีความเชื่อมั่นน้อย แต่หลังจากเริ่มปรับกลยุทธ์เปิดให้บริการให้เช่าเมื่อปลายปี'59 ที่ผ่านมา พบว่าลูกค้าเริ่มให้การตอบรับมากขึ้น ด้วยค่าเช่าเฉลี่ยเดือนละ 40,000 - 50,000 บาท มีบริการซ่อมบำรุงตลอดการใช้งาน โดยในปี'63 บริษัทจึงมีแผนขยายตลาดในประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มอีกด้วย