ปัจจัยที่ส่งผลที่ทำให้ธุรกิจเติบโต คือ ปีนี้จะเน้นบุกตลาดส่งออกที่เป็นตลาดใหม่และยังไม่ค่อยรู้จักสินค้าเครื่องนอนจากยางพารามากนัก โดยมุ่งเน้นไปที่ประเทศที่มีจำนวนประชากรสูง ได้แก่ อินเดีย สหรัฐอเมริกา และประเทศในกลุ่ม ตะวันออกกลาง ซึ่งมีกำลังซื้อสูง สำหรับตลาดอินเดียเราก็ได้ลูกค้าส่งออกไปแล้วจำนวนหนึ่ง เพราะเริ่มบุกตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ส่วนตลาดกลุ่ม AEC ก็ยังทำอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยมีตัวแทนจำหน่ายของ Greenlatex แล้วที่กัมพูชาและมีโชว์รูม 2 แห่งที่พนมเปญและเสียมเรียบ และภายในไม่เกินไตรมาส ที่ 2 คาดว่าจะมีตัวแทนและเปิดโชว์รูมที่เวียดนาม และเริ่มบุกตลาด เมียนมา ต่อไปกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทประมาณ 80% คือลูกค้า OEM ตลาดต่างประเทศ โดยได้ทำการผลิต OEM ภายใต้แบรนด์ของลูกค้าให้กับแบรนด์ใหญ่ๆ หลายแบรนด์ในประเทศจีนและเกาหลี รวมทั้งผลิตสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ให้กับห้างใหญ่ๆ หลายห้างในเมืองไทยด้วย นอกจากผลิต OEM ภายใต้แบรนด์ของลูกค้าแล้ว ยังมีสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ของเราเองอยู่ถึง 7 แบรนด์ เพื่อเข้าไปขายในโมเดิร์นเทรดต่างๆ ทั่วประเทศ และขายในตลาดกลุ่ม AEC
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์หลัก คือ ผลิตภัณฑ์เครื่องนอนที่ผลิตจากยางพารา ไม่ว่าจะเป็น หมอน ที่นอน Topper ผ้าห่ม เครื่องนอนเด็กแรกเกิด ไปจนถึงพวก Accessories ต่างๆ เช่น เบาะพิงหลัง เบาะรองนั่ง หมอนล็อคคอ เป็นต้น นอกจากผลิตภัณฑ์เครื่องนอนกลุ่มยางพาราแล้ว เรายังมีโรงงานผลิตกลุ่มที่นอนสปริง และยางพาราอัดด้วย อย่างไรก็ตามในปีนี้ เราตั้งใจจะแตกไลน์ไปยังผลิตภัณฑ์เครื่องนอนที่ใช้วัตถุดิบใหม่ๆ และเสนอที่นอนรุ่นใหม่ที่มีการเรียงชั้นวัสดุอย่างเหมาะสมสำหรับลูกค้าแต่ละกลุ่มอีกด้วย
นางจิรวดี กล่าวต่ออีกว่า จุดแข็งของกรีนลาเท็กซ์ คือ ไม่เพียงแต่นำเสนอผลิตภัณฑ์เครื่องนอนยางพารา ตลอดจนผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่หลากหลายออกสู่ตลาด แต่เรายังคงมุ่งมั่นที่เป็นผู้ผลิตเองทุกอย่างตั้งแต่ต้นน้ำ ทำให้สามารถควบคุมคุณภาพและเสนอราคาที่พอเหมาะให้กับลูกค้าได้ นอกจากนั้นกรีนลาเท็กซ์ยังมีชื่อเสียงในเรื่องของการมีกำลังการผลิตสูง และมีสต็อกสินค้า ทำให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งมีการให้บริการที่ครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการออกแบบ การผลิต ไปจนถึงการจัดส่ง เรามีฟลีทรถจัดส่งของเราเองหลายขนาด ตั้งแต่ รถบรรทุกหัวลาก รถบรรทุกขนาดใหญ่ และรถกระบะ เพื่อให้ครอบคลุมการจัดส่งทุกพื้นที่
โดยมองว่า ตลาดเครื่องนอนยางพารามีการแข่งขันสูงมาก โดยเฉพาะในฝั่งตลาดทัวร์ Shop และตลาด E-Commerce ในประเทศจีน และเกาหลี ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของหมอนที่นอนยางพารา มีการแข่งกันลดราคาอย่างต่อเนื่องเพื่อครองตลาด แต่อย่างไรก็ตาม การที่บริษัท ยังอยู่ได้เพราะเน้นผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ไม่เคยลดต้นทุนโดยการเลือกวัตถุดิบไม่ดีหรือราคาต่ำมาผลิตสินค้า แต่เราเลือกพัฒนากระบวนการผลิตเพื่อลดค่าใช้จ่ายสิ้นเปลืองและต้นทุนการผลิตที่ไม่จำเป็น เพื่อให้สามารถเสนอสินค้าที่ราคา Competitive ให้กับลูกค้าได้
นอกจากนั้น เรายังเน้นการเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืนกับลูกค้า ผลิตและจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าอย่างรวดเร็ว เพื่อเพิ่มโอกาสการขายและลดภาระการแบกสต็อกของลูกค้า อีกทั้งยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ตามความต้องการของตลาดให้กับลูกค้าอยู่ตลอดเวลา ลูกค้า OEM ทุกเจ้าจึงยังอยู่กับเราตั้งแต่เปิดโรงงานจนถึงปัจจุบัน และลูกค้าใหม่ก็พึงพอใจและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัท” นางจิรวดี กล่าวทิ้งท้าย
|