1. จัดทำ CG Framework ให้เป็นลายลักษณ์อักษร และมีการทบทวนตามความเหมาะสม
2. กำหนดโครงสร้างของคณะกรรมการ ต้องมีองค์ประกอบ และจำนวนของกรรมการที่เหมาะสม มีการถ่วงดุลอำนาจ และคำนึงถึงความสามารถของกรรมการในการทำงานร่วมกัน ให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ
3. การแต่งตั้งประธานคณะกรรมการของบริษัท ประธานฯ ควรจะต้องเป็นกรรมการอิสระหรือกรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหารของบริษัท เพื่อการกำกับดูแลกิจการที่ดี
4. กำหนดบทบาท หน้าที่และความรับผิดชอบของคณะกรรมการบริษัทในฐานะผู้นำองค์กร และแบ่งแยกหน้าที่ของกรรมการบริษัท ผู้บริหารของบริษัทในฐานะฝ่ายกำกับดูแล และฝ่ายบริหารของบริษัทไว้อย่างชัดเจน
โดยอยากเห็นคณะกรรมการตรวจสอบ กรรมการอิสระ และผู้สอบบัญชีของบริษัทประกันภัย มี “R-E-A-C-T” ซึ่งประกอบด้วย R - Reliability คือ“รู้ทัน สั่งการ ติดตาม” E - Experience คือใช้ความรู้ความสามารถ และประสบการณ์ในการให้ข้อเสนอแนะการปรับปรุงแก้ไขกระบวนการทำงานของบริษัทและมี A - Assurance คือปฏิบัติหน้าที่ทั้งการตรวจสอบเชิงป้องกัน หรือการตรวจสอบเพื่อหาข้อบกพร่อง ระบบการตรวจสอบที่ดี เพื่อให้มั่นใจได้ว่าบริษัทประกันภัยมีรายงานทางการเงินที่มีความสมบูรณ์ ถูกต้อง เชื่อถือได้ นอกจากนี้ยังต้องมี C - Compliance คือขอให้สอบทานว่าบริษัทมีวัฒนธรรมที่ส่งเสริมให้เกิดการปฏิบัติตามกฎระเบียบแล้วหรือไม่ และกระบวนการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานปฏิบัติตามกฎหมาย (Compliance Unit) และการตรวจสอบภายในสอดคล้อง และครอบคลุมกับประกาศ และข้อกำหนดต่างๆ แล้วหรือไม่ และสิ่งสุดท้ายที่ต้องมีคือ T - Transparency คือความโปร่งใสในการดำเนินการ ซึ่งเน้นเรื่องการกำกับดูแลฐานะการเงินและการดำเนินงานของบริษัทที่โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้
ทั้งนี้ ในการประชุม ยังได้มีการชี้แจงและทำความเข้าใจ เรื่อง เกี่ยวกับสาเหตุหลักที่ทำให้บริษัทประกันภัยถูกเพิกถอนใบอนุญาต และความคาดหวังต่อบทบาทของคณะกรรมการตรวจสอบในเรื่องระบบการควบคุมภายใน โดยนายชูฉัตร ประมูลผล รองเลขาธิการ ด้านตรวจสอบ อีกทั้งได้มีการชี้แจงและทำความเข้าใจเรื่องประกาศ คปภ. เกี่ยวกับการเสนอขายที่ปรับปรุงใหม่ ซึ่งจะนำไปสู่ “Appropriateness for the Best Policy” โดย นายอรรถพล พิบูลธนพัฒนา ผู้ช่วยเลขาธิการ สายตรวจสอบคนกลางประกันภัย รวมถึงยังได้มีการนำเสนอเรื่องบทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบในการกำกับดูแลงบการเงิน และประเด็นที่คณะกรรมการตรวจสอบควรให้ความสำคัญ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อความถูกต้องของงบการเงิน เพื่อแสดงความเห็นที่เป็นอิสระและเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน โดย ดร.ชญานิน เกิดผลงาม ผู้ช่วยเลขาธิการ สายวิเคราะห์ธุรกิจประกันภัย รวมทั้งเปิดให้ที่ประชุมได้ซักถามและให้ข้อเสนอแนะ
นอกจากนี้ เลขาธิการ คปภ. ยังได้แนะนำให้กรรมการตรวจสอบและกรรมการอิสระด้านประกันภัยมีการรวมตัวกันเป็นกลุ่ม โดยในเบื้องต้นอาจจัดทำเป็นชมรม เพื่อจะได้มีเวทีพบปะแลกเปลี่ยนประสบการณ์ต่างๆ อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง เพื่อให้ปัญหาของบริษัทประกันภัยได้รับการป้องกันหรือแก้ไขอย่างทันท่วงทีและเป็นระบบ
“สำนักงาน คปภ. หวังเป็นอย่างยิ่งว่าหลังจากการประชุมในวันนี้ จะมีการนำประเด็นที่ สำนักงาน คปภ. มีความห่วงใยไปพิจารณาว่า บริษัทประกันภัยแต่ละบริษัทมีความเสี่ยงอย่างไรบ้าง เพื่อกำหนดมาตรการในการป้องกันความเสี่ยง กำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหาหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่เหมาะสม รวมถึง เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในการดำเนินธุรกิจก็สามารถรับมือได้อย่างทันท่วงที เพื่อช่วยกันทำให้บริษัทประกันภัยมีความเข้มแข็ง และเพื่อให้ธุรกิจประกันภัยสามารถก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย
|