“เคยมีการตั้งคำถามว่าสวิตช์ปลั๊กไฟของดาต้า เปิด-ปิดได้กี่หน และใช้ได้นานแค่ไหน เราเลยปิ๊งไอเดียคิดค้นเครื่องนี้ โดยเบื้องต้นพัฒนาขึ้นมาเพื่อลองมาเทสต์กันดูว่าการทำงานของเซิร์ฟเวอร์หรือเคาท์เตอร์เปิด-ปิดเป็นอย่างไร จุดใดที่พังก่อน หรือมีปัญหาเกิดขึ้นที่ใด ซึ่งผลลัพธ์จากเครื่องมือนี้สามารถนำมาปรับใช้กับการตรวจสอบและควบคุมคุณภาพ (QC) ในบริษัทเราเองได้ ยกตัวอย่าง เราตั้งเกณฑ์ไว้ที่ 20,000 ครั้ง สวิตช์ที่ประกอบมาแล้วเทสต์ได้แค่ 10,000 - 15,000 ครั้งก็ทำให้เรารู้เลยว่า ล็อตที่ผลิตมาต้องมีปัญหา เราก็สามารถส่งไปเช็คดูที่ไลน์ผลิตได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ปัญหาอยู่ที่จุดใด เราเห็นจากหน้างานได้เดี๋ยวนั้นเลย เมื่อรู้ต้นตอของปัญหาแล้วก็สามารถจัดการได้ตรงจุดและทำได้เลยทันที เพราะเราผลิตเองทุกอย่าง ฉีดพลาสติกเอง แม้กระทั่งการประกอบก็ทำแบบแฮนเมด ไม่ว่าจะเป็นสวิตช์ เต้ารับ รวมทั้งชิ้นส่วนเล็กๆ หลายๆ ชิ้นที่นำมาประกอบเป็นสินค้า เพราะฉะนั้นเครื่องมือนี้จึงช่วยนำเราไปสู่กระบวนการผลิตเพื่อเพิ่มคุณค่าสินค้าให้มากขึ้นได้นั่นเอง”
พงพัฒน์ กล่าวต่อว่า เครื่องมือนี้นับเป็นการเริ่มต้นการพัฒนาโมเดลอื่นๆ ต่อไป โดยดาต้า เพาเวอร์ วางแผนที่จะพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตร่วมกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตด้วย “ระบบคำนวณระยะเวลาประกอบปลั๊ก” โดยตั้งโจทย์ไว้ว่าใน 1 ชั่วโมง ต้องประกอบได้จำนวนเท่าไร เมื่อประกอบแล้วได้จำนวนตามที่คาดการณ์หรือไม่ โดยการวัดผลจะคำนวณแล้วแปรประมวลผลในรูปแบบกราฟที่ชัดเจน จึงสามารถเข้าไปแก้ไขได้อย่างทันท่วงที
|