โดยโครงการ “กันน็อคให้น้อง" ได้ร่วมมือกับชมรมคนห่วงหัว ในมูลนิธิเมาไม่ขับ รณรงค์ให้ความรู้ และส่งเสริมให้นักเรียน ครู ผู้ปกครอง เล็งเห็นถึงความสำคัญของการสวมหมวกกันน็อค อีกทั้งยังจ้างงานผู้พิการ ซึ่งเป็นบุคคลซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงจากอุบัติเหตุบนท้องถนน จนเกิดภาวะพิการตลอดชีวิต มาเป็นฑูตห่วงหัว ซึ่งจะสามารถบอกกล่าวกับชุมชนให้เห็นภาพได้อย่างชัดเจนว่า หากไม่ปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัย ผลที่ได้จะเป็นอย่างไร โดยตลอด 7 ปีที่ผ่านมา ได้บริจาคหมวกกันน็อคไปแล้วกว่า 35,000 ใบ ใน 25 จังหวัด ทั่วประเทศ จากความมุ่งมั่นและตั้งใจจริงที่จะสร้างสังคมที่ปลอดภัยในการเดินทางให้กับเด็กๆและเยาวชน ทำให้เอไอจี ได้รับรางวัล Prime Minister Road Safety Award 2017 ในหมวดองค์กรแบบอย่างด้านความปลอดภัยบนถนน จากศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ซึ่งเอไอจีนับป็นบริษัทเอกชนเพียงรายเดียวที่ได้รับรางวัลนี้
“ในปีนี้ เรายังคงเดินหน้าสานต่อโครงการกันน็อคให้น้อง เพื่อส่งเสริมความปลอดภัยให้กับเด็กไทย ลดอุบัติเหตุและอัตราการเสียชีวิตจากการขับขี่รถจักรยานยนต์บนท้องถนน ซึ่งข้อมูลล่าสุดจากองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ในปี 2561 อัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนถนนของไทยลดลงจากอันดับ 2 ของโลก อยู่ที่อันดับ 9 ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดี สำหรับความพิเศษของโครงการในปีนี้ คือ เราจะมอบหมวกกันน็อคให้นักเรียนทั่วประเทศ รวม 10,000 ใบ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสที่เอไอจีสำนักงานใหญ่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาดำเนินกิจการครบรอบ 100 ปี โดยจะพิจารณาเลือกโรงเรียนที่อยู่ในจังหวัดที่มีอัตราการเกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิตจากการขับขี่จักรยานยนต์สูง ซึ่งขณะนี้ได้ทยอยส่งมอบหมวกกันน็อคให้โรงเรียนต่างๆ แล้ว โดยล่าสุดได้ร่วมกับเทศบาลจังหวัดนครราชสีมา ส่งมอบหมวกกันน็อคให้กับเด็ก ๆ และเยาวชนในจังหวัดนครราชสีมา” นายอิศรศักดิ์ กล่าว
นายอิศรศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “เป็นที่น่ายินดีที่โครงการกันน็อคให้น้องทำให้นักเรียนและชุมชนเห็นความสำคัญในการใส่หมวกกันน็อคเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม เอไอจี จะยังเดินหน้าสานต่อโครงการนี้ต่อไป เพราะเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการให้ความรู้ความเข้าใจถึงอันตรายของอุบัติเหตุบนท้องถนน รวมทั้งต้องใช้เวลาในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเด็ก รวมไปถึงคุณครู และผู้ปกครอง ด้วย เพราะถึงแม้จะมีหมวกกันน็อคแล้ว แต่สิ่งที่ยากกว่าคือจะทำอย่างไรให้เขาสวมหมวก”
|