|
ขึ้นชื่อว่านาฬิกาอัจฉริยะ แน่นอนว่าฟังก์ชั่นภายในต้องแจ่มว้าวไม่แพ้ใคร XFIT SPORT มีจุดเด่นที่มี GPS ในตัว ผู้ใช้จึงสามารถใส่ออกกำลังกายได้โดยไม่ต้องพกโทรศัพท์ให้กังวลใจ เหมาะสมที่สุดสำหรับ 4 ชนิดกีฬาที่ต้องพึ่งพา GPS อย่าง เดินเร็ว วิ่ง ปั่นจักรยาน และ ปีนเขา แต่ถึงอย่างนั้น XFIT SPORT ก็ยังออกแบบมาเพื่อเป็นสมาร์ทวอชทรงคุณค่าสำหรับอีก 20 ชนิดกีฬาที่ไม่ต้องใช้ GPS อีกด้วย นั่นคือ ฟุตบอล บาสเก็ตบอล วอลเล่ย์บอล ฟิตเนส แบดมินตัน เทนนิส ปิงปอง โบวลิ่ง เบสบอล ปาลูกดอก วิ่งบนลู่ ปั่นจักรยานบนลู่ เต้นแอโรบิค โยคะ สกี สเก็ตน้ำแข็ง วิดพื้น กระโดดเชือก ปีนผา และ เต้นรำ ซึ่งแน่นอนว่านักกีฬาทั้ง 24 ประเภทกีฬาดังกล่าวต่างมีความจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีสุดล้ำ โดยเฉพาะการวิเคราะห์ข้อมูลสถิติต่างๆ ที่เป็นประโยชน์เพื่อนำมาพัฒนาและเพิ่มทักษะการกีฬาให้มากขึ้นกันทั้งนั้น
XFIT SPORT จึงให้ความสำคัญกับการใช้ 3-axis Accelerometer Sensor เป็นเซ็นเซอร์วัดความเร่งแบบ 3 แกน ช่วยให้การนับก้าว ระยะทาง และแคลอรี่แม่นยำมากขึ้น ส่งผลดีต่อเนื่องมาที่การวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ทั้งแบบ Real-Time และแบบรายครั้งที่มีความแม่นยำสูง พร้อมการแสดงผลผ่านกราฟโซนอัตราการเต้นหัวใจ (Heart rate zone) แต่ละโซนในแต่ละนาทีที่ออกกำลังกาย สามารถแยกความเร็วเฉลี่ยในแต่ละกิโลเมตรที่ออกกำลังกายได้ อีกทั้งระบบยังช่วยติดตามข้อมูลการนอน และประเมินคุณภาพการนอนหลับ ทั้งการแยกหลับลึกและหลับตื้น โดยสามารถเรียกดูข้อมูลย้อนหลังในแอปพลิเคชัน Hi Move สามารถดาวโหลดได้ฟรีทั้ง Android และ iOS ซึ่งจะบอกข้อมูล อัตราการเต้นของหัวใจเฉลี่ย ความเร็วเฉลี่ย ความเร่งเฉลี่ย และความยาวก้าว เป็นต้น พร้อมสรุปข้อมูลนับก้าว แคลอรี่ ระยะทาง ที่เคลื่อนที่ในแต่ละวัน รวมทั้งข้อมูลการนอนแต่ละคืน ได้ตามที่ต้องการทั้งแบบรายสัปดาห์ รายเดือน และรายปี
นอกจากนั้น เมื่อเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันแล้ว ผู้สวมใส่ XFIT SPORT ยังสามารถรู้สภาพอากาศบริเวณที่จะออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาด้วยฟีเจอร์แสดงพยาการณ์อากาศบริเวณนั้นๆ รวมทั้งยังมีฟังก์ชั่นคำสั่งและแจ้งเตือน (Notification) ต่างๆ ที่มีประโยชน์ เข้าใจง่ายได้ทันทีด้วยข้อความภาษาไทย และยังเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของนักกีฬาในยุคนี้เป็นอย่างดี ทำให้นักกีฬาสามารถสนุกอยู่ในโลกออนไลน์ไปพร้อมกับกีฬาสุดโปรดได้ในเวลาเดียวกัน เช่น แจ้งเตือนสายโทรเข้า SMS, Line, Facebook หรือแชร์ข้อมูลการออกกำลังกายลงโซเชียลมีเดียต่างๆ สามารถตั้งนาฬิกาปลุก สั่งถ่ายรูปจากนาฬิกา สั่งเล่นเพลง หยุดเพลงหรือเลื่อนเพลงจากนาฬิกาได้เลย ตลอดจนการตั้งระบบแจ้งเตือนการนั่งนาน เตือนดื่มน้ำ เป็นต้น
ส่วนการดูแลตัวเครื่องและรักษาประสิทธิภาพการใช้งานก็แสนง่ายดาย ไม่ยุ่งยาก เพราะ XFIT SPORT เลือกใช้แบตเตอรี่ลิเทียมโพลีเมอร์ที่มีความจุ 160 mAH ให้น้ำหนักเบา สามารถชาร์จซ้ำได้ถึง 300-400 รอบ แถมยังออกแบบหัวชาร์จแบบ USB สามารถเสียบกับช่องอุปกรณ์ที่มีช่อง USB เช่น คอมพิวเตอร์, พาวเวอร์แบงค์ ได้เลย ดังนั้นเมื่อใช้พลังงานหมดแล้ว เพียงแค่ใช้เวลาชาร์จประมาณ 1 – 2 ชั่วโมงต่อครั้ง ก็สามารถใช้งานปกติได้นานถึง 7 วันแล้ว หากอยู่ในระหว่างโหมดออกกำลังกายที่ต้องใช้ GPS ก็สามารถใช้งานต่อเนื่องได้มากถึง 4 ชั่วโมงเลยทีเดียว
เมื่อคุณสมบัติดีเยี่ยมแล้ว ย่อมมาพร้อมกับราคาโดนใจ XFIT SPORT นาฬิกาเพื่อสุขภาพ เต็มใจนำเสนอราคาโปรโมชั่นสุดพิเศษจากปกติ 4,800 บาท เหลือเพียง 2,990 บาทเท่านั้น โอกาสดีๆ แบบนี้ต้องรีบคว้าไว้
ทั้งนี้ XFIT รุ่น SPORT เป็นหนึ่งในนาฬิกาอัจฉริยะตระกูล XFIT Watch ที่ได้รับการยอมรับในกลุ่มคนออกกำลังกาย โดยเฉพาะนักกีฬาตัวจริงเป็นอย่างมาก และยังเป็นส่วนหนึ่งที่ผลักดันให้บริษัท พีเคแอล มัลติมีเดีย จำกัด (XFIT Thailand) ผู้ผลิต XFIT ทุกรุ่น สามารถกวาดรางวัลการันตีมากมายมาครองได้ อาทิ รางวัล 30 The Best Business & Product Awards 2019, The Quality Awards 2019 ธุรกิจผลิตภัณฑ์คุณภาพยอดเยี่ยม 2562 และรางวัล The Winner Awards 2019 สุดยอดธุรกิจและผู้นำองค์กรดีเด่นแห่งปี 2019 ซึ่งรางวัลต่างๆ เหล่านี้ย่อมสะท้อนให้เห็นความตั้งใจในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดีออกสู่ผู้บริโภค และบ่อบอกความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อผลิตภัณฑ์ทุกตัวของ XFIT อีกทั้งยังเป็นแรงกระตุ้นให้ผู้ผลิตนาฬิกาอัจฉริยะของคนไทย เดินหน้าสร้างความน่าเชื่อถือในตลาดระดับโลกได้เป็นอย่างดี |
