“เราเปิดให้บริการ JWD Store It! สาขาสยาม โดยเริ่มต้นจากการให้บริการห้องเก็บของส่วนตัวได้ประมาณ 1 ปี และเห็นโอกาสขยายธุรกิจสู่การให้บริการด้านโลจิสติกส์งานศิลปะแบบครบวงจร (One stop services) เพื่อเป็น Solution ในการแก้ไข Pain Point กลุ่มนักสะสมงานศิลปะ ที่ต้องการหาสถานที่จัดเก็บที่เหมาะสมเพื่อคงคุณค่างานศิลปะให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุด ระบบจัดการฐานข้อมูลเกี่ยวกับชิ้นงานที่สะสมและขนย้ายงานศิลปะที่ได้มาตรฐานในไทย ปัจจุบันจึงนับว่าเราเป็น First Mover หรือผู้ประกอบการรายแรกที่เปิดตัว Art Space ที่เป็นศูนย์รวมที่สุดแห่งระบบการจัดเก็บงานศิลปะ ให้คำปรึกษา และบริการครบวงจรเกี่ยวกับศิลปะร่วมสมัยอย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนในประเทศไทย โดยมุ่งหวังให้เป็นศูนย์ศิลปะระดับภูมิภาคที่สร้างและขยับขยายเครือข่ายศิลปะร่วมสมัยทั้งในและนอกภูมิภาค ประกอบกับทำเลที่ตั้งของโครงการที่อยู่ในพื้นที่ย่านศูนย์กลางธุรกิจ สามารถเดินทางเข้า-ออกได้อย่างสะดวกสบาย จึงมั่นใจว่าจะเป็นธุรกิจใหม่ที่มีผลตอบรับที่ดี” นายชวนินทร์ กล่าว
ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า บริษัทฯ ยังได้พัฒนา Mobile Application ภายใต้ชื่อ JWD Art Space เพื่อเป็นช่องทางติดต่อสื่อสารกับลูกค้าและผู้ที่สนใจเข้าใช้บริการ โดยสามารถใช้แอพพลิเคชั่นดังกล่าวเป็นช่องทางติดต่อนัดหมายการขนย้ายงานศิลปะ อัพเดตสถานะการจัดเก็บงานศิลปะให้แก่ลูกค้า ข้อมูลการจัดแสดงเอ็กซิบิชั่นงานศิลปะต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นทั้งในไทยและต่างประเทศ
บริษัทฯ คาดว่าธุรกิจ Art Space จะสามารถสร้างรายได้จากการรับบริการขนย้าย จัดเก็บ และบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องจากงานศิลปะ รวมประมาณปีละ 10-15 ล้านบาท โดยหลังจากจัดงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ก็ได้รับการตอบรับที่ดี โดยมีนักสะสมงานศิลปะและศิลปินชื่อดังเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมากและแสดงความสนใจใช้บริการหลายราย
“เนื่องจากในช่วง 3 ปีนับจากนี้ JWD วางแผนขยายการลงทุนธุรกิจ Self-Storage เพิ่มขึ้นเป็น 15-20 สาขา รวมพื้นที่ 20,000 ตารางเมตร เน้นทำเลในเมืองที่ลูกค้าสามารถเข้า-ออกได้สะดวก ดังนั้นหากธุรกิจ Art Space สามารถสร้างรายได้ตามเป้าหมายวางไว้ เราก็พร้อมจะใช้พื้นที่ส่วนหนึ่งใน Self-Storage สาขาใหม่ ๆ เพื่อขยายธุรกิจด้าน Art Space ต่อไปในอนาคต รองรับความต้องการใช้บริการที่เพิ่มขึ้น” นายชวนินทร์ กล่าว
|