สามารถสร้างโอกาสทางการตลาดในเชิงพาณิชย์และเป็นการสร้างรายได้กลับสู่ชุมชนอย่างยั่งยืน รวมถึงการให้ความรู้ด้านทรัพย์สินทางปัญญาแก่ผู้ประกอบการงานหัตถศิลป์ไทยทั่วประเทศ ซึ่งในอนาคตผมหวังว่าในวงการงานศิลปหัตถกรรมไทย จะนำแนวคิดดังกล่าวมาปรับใช้และต่อยอดผลงานภายใต้ Creative Craft Economy ต่อไป”
นอกจากนี้ ภายในงาน SACICT ยังได้จัดแสดงตัวอย่างผลิตภัณฑ์หัตถศิลป์ที่มีการผสมผสานเทคนิคเชิงช่างต่างถิ่น พัฒนาออกมาเป็นชิ้นงานใหม่ สอดรับกับความต้องการของตลาดมากยิ่งขึ้น ได้แก่ ผลงานการพัฒนาทักษะเชิงช่างและเทคนิคการประดับมุกบนเครื่องดิน และการมัดและย้อมสีธรรมชาติด้วยวัตถุดิบในท้องถิ่นภาคใต้ โดยการนำเส้นไหมและผ้าไหมกับน้ำย้อมจากวัตถุดิบที่ได้จากพืชพรรณธรรมชาติ
|