“ผมยังไม่เคยพูดในเวทีสาธารณะเกี่ยวกับความสัมฤทธิ์ผล เพราะว่างานวิจัยยังไม่จบ แต่เมื่องานวิจัยแล้วเสร็จก็จะประกาศในเวทีสาธารณะอย่างเป็นทางการ ซึ่งได้กำหนดวันแถลงข่าวกับสื่อมวลชนทั้งโลก ในวันที่ 3-4 เมษายน 2563งานการนำเสนอผลงานวิจัย ความสำเร็จหรือความสัมฤทธิ์ผลในเรื่องเอดส์ และมะเร็ง แต่ต้องเลื่อนงานออกไปก่อนอย่างไม่มีกำหนดชัดเจน เนื่องจากเกิดวิกฤติโรคระบาด โควิค -19 เพราะผู้ที่จะเดินทางมาร่วมงานจะต้องถูกกักตัว ซึ่งในวันแถลงข่าวบริษัท จะเชิญ ทูตานุทูต อุปทูต หลายประเทศเข้าร่วมงานด้วย ”
“ที่สำคัญเราได้กำหนดไว้จะประกาศให้โลกรู้ว่า นวัตกรรมพืชพรรณสมุนไพรไทยนี้ สามารถช่วยผู้ป่วยโรคร้ายแรงอย่างมีนัยสำคัญ ผมไม่อยากจะบอกว่าหายนะครับ แต่ว่า ณ วันเวลาที่เราแถลงข่าว บรรดาสื่อมวลชนและคนทั้งโลกจะได้ทราบว่า การพัฒนาพืชสมุนไพรโดยไม่มีสารเคมี มันทำให้เกิดความสัมฤทธิ์ผลขนาดไหน ผมอยากจะเรียนว่า ตัวอย่างในเคส 20 คนผู้ป่วยเอดส์ ที่มีการใช้ร่วมกับยาต้านเอดส์ ผลงานวิจัยออกมาชัดเจนว่า ไม่เกิดผลกระทบต่อกันในเรื่องของการไปทำลายฤทธิ์ยาหรือลดประสิทธิภาพซึ่งกันและกัน โดยมีเอกสารพร้อมที่จะเผยแพร่”
ดร.อัศวิน วัฒนปราโมทย์ กล่าวว่า ณ เวลานี้ บริษัทโพรแลค มีทีมงานวิจัยโดยการรวมกลุ่มนักวิจัยนานาชาติหลายประเทศทั่วโลก จาก ฝรั่งเศส แอฟริกาใต้ อียิปต์ มาเลเซีย เซเนกัล และไทย ซึ่งนักวิจัยหลายคนได้ร่วมทำงาน และได้รู้ได้เห็นความมหัศจรรย์ของพืชสมุนไพรไทยและให้การยอมรับ ส่วนการรวบรวมนักวิจัยนานาชาติเพิ่งจะรวบรวมเมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา โดยมีถึงระดับผู้อำนวยการสำนักงานวิจัยของประเทศอียิปต์ได้เข้ามาร่วม ซึ่งการรวมนักวิจัยนานาชาติมาอยู่ในทีมก็เพื่อทำให้นวัตกรรมที่ดีนี้เป็นของมวลมนุษย์ชาติทั้งโลก
ทั้งนี้การวิจัยต่อไปจะเป็นสมุนไพรชนิดอื่นๆ โดยจะกำหนดเป้าหมายขึ้นมา เพื่ออะไร ในขณะที่การวิจัยพืชสมุนไพรพลูคาวผลการวิจัยสัมฤทธิ์ผลแล้ว ส่วนในการวิจัยต่อไปโดยส่วนตัวนั้นก็มีเป้าหมายอยู่ในใจแล้วว่าจะวิจัยพัฒนาพืชสมุนไพรเพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาโรคอันเกิดจากการใช้ยาปฏิชีวนะ เพราะทุกวันนี้โรคที่เกิดจากการใช้ยาปฏิชีวนะมีมากมายมหาศาล เช่นใช้ยารักษาโรคหนึ่งและทำให้เกิดขึ้นอีกโรคหนึ่ง ไม่รู้จักจบสิ้น ทำให้สิ้นเปลื้องค่ารักษาพยาบาลมากมายและไม่สิ้นสุด เพราะฉะนั้นต้องใช้ธรรมชาติบำบัดจริงๆ ให้สัมฤทธิ์ผลในการแก้ไขปัญหาโรคที่เกิดจากการใช้ยาปฏิชีวนะ ทำให้ร่างกายของมนุษย์กลับคืนสู่ธรรมชาติ โดยปกติวิสัยแล้วระบบของร่างกายมนุษย์สามารถรักษาตัวเองได้อยู่แล้วถ้าเรารู้วิธี
สำหรับการทำวิจัยที่ผ่านมานั้น บริษัทโพรแลคได้รับการอนุเคราะห์จาก สำนักงานกองทุนวิจัยไทย (สกว.) ร่วมให้ทุนเป็นหลัก วันนี้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทจึงมีลิขสิทธิ์อยู่ 3 ฝ่าย คือ บริษัทโพรแลค ,สกว., และมหาวิทยาลัยที่ร่วมวิจัย ซึ่งมีอยู่หลายมหาวิทยาลัย เช่น คณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะอุตสาหกรรมการเกษตรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยขอนแก่น คณะวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น สถาบันรุกขเวศ มหาวิทยาลัยมหาสารคราม และคณะผลิตกรรมการการเกษตรมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งตนเองก็เป็นที่ปรึกษาคณะอยู่ในปัจจุบันนี้
“ผมไม่เคยไปโอ้อวดกับสื่อมวลชนใดๆว่า ผลิตภัณฑ์ของโพรแลคใช้รักษาโรคภัยต่างๆหายได้ แต่จริงๆแล้วสามารถทำให้หายได้จริงๆมานานแล้ว แต่ยังไม่ถึงเวลาที่จะประกาศอย่างเป็นทางการ เพราะต้องรองานวิจัยที่เป็นเอกสารพร้อมที่จะพิสูจน์ และจากงานวิจัยทำให้คณาจารย์ผู้ร่วมวิจัยได้เห็นว่า ผลิตภัณฑ์ของบริษัทโพรแลคนั่น ไม่ใช่การผลิตจากสมุนไพรธรรมดาเท่านั้น แต่มีอะไรที่มันไปไกลกว่านั้นเยอะมาก มากกว่าคำว่าสมุนไพร ซึ่งคณาจารย์ทั้งหลายก็ให้การยอมรับ”
ส่วนการมอบสิทธิ์การจัดจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ หยีชิงเฉา และ จิวยากุ ให้กับ บริษัท พลัสโกลด์ เวิลด์ไวด์ จำกัด ก็เพราะ บริษัทโพรแลค ได้ตัดสินใจหยุดการทำธุรกิจเครือข่ายขายตรง เพราะต้องมุ่งหน้าไปทำงานต่างประเทศ ที่ก้าวไปสู่สิ่งที่สูงกว่า ซึ่ง บริษัทโพรแลค ได้ร่วมกับโรงงานที่มีศักยภาพในการผลิต ในประเทศมาเลเซีย ร่วมกันจัดตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมา เพื่อผลิตและจำหน่ายทั่วโลก โดยมี พล.อ ชวลิต ยงใจยุทธ์ เดินทางไปร่วมเป็นสักขีพยาน ดังนั่นด้วยภารกิจดังกล่าวจึงมอบลิขสิทธิ์สินค้าแบรนด์ ยู่ฉิงเชา และจิวยากุ ให้ บริษัท พลัสโกลด์ ทำตลาดในช่องทางขายตรงในประเทศไทย และจำหน่ายออกไปต่างประเทศได้ทั่วโลกได้ในทุกช่องทาง ที่สำคัญผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 แบรนด์นี้ มีความโดดเด่นมาก เพราะมีความเข้มข้นในการต้านสารอนุมูลอิสระสูง ยู่ฉิงเชา สูงถึง 875 ไมโครโมล/ลิตร และ จิวยากุ 402 ไมโครโมล์/ลิตร มากกว่า ผลิตภัณฑ์ โดกุดามิ ที่จำหน่ายอยู่ก่อนหน้านี้ ซึ่งมีอยู่ 271 ไมโครโมล์/ลิตร
“การร่วมมือกับโรงงานในประเทศมาเลเซียก็เพื่อการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ดีไปทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศมุสลิม เพราะผลิตภัณฑ์จากบริษัทโพรแลค ได้ตราฮาลานของประเทศมาเลเซีย และอยากจะบอกว่าก่อนนี้มีนักธุรกิจจากหลายประเทศมากที่ต้องการนำผลิตภัณฑ์ของโพรแลคไปทำตลาด ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น เกาหลี รวมทั้งสหรัฐอเมริกา ซึ่งหลายกลุ่มแสดงออกให้เห็นว่าเขาต้องการ แค่โนฮาวน์ของเรา ไม่ได้ต้องการผลิตภัณฑ์อย่างแท้จริง จึงเลิกการเจรจากันไป แต่การมอบสิทธิ์การทำตลาดผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 แบรนด์ให้กับ พลัสโกลด์ ก็เพราะความสัมพันธ์ส่วนตัว อิศม์เดช ถือเป็นน้องชายที่รู้จักกันมานานถึง 21 ปีแล้ว ที่สำคัญการที่เป็นคนกันเอง ผมก็จะเป็นผู้ช่วยกำกับดูแลอยู่เบื้องหลังได้ง่ายและคล่องตัวกว่า”
ด้านนายอิศม์เดช ธำรงวัฒน์วงศา กล่าวว่า ตนเองอยู่ในวงการธุรกิจเครือข่ายมามากกว่า 20 ปี ถือว่ามีความถนัดและเชี่ยวชาญในการทำธุรกิจทางด้านนี้ ซึ่งในการทำตลาดธุรกิจเครือข่ายนั้น สินค้าจะต้องเป็นผลิตภัณฑ์สเปเซียลโปรดักส์ ต้องมีความแตกต่างจากท้องตลาด ที่ไม่สามารถลอกเลี่ยนแบบได้ ดังนั่นเป้าหมายของความสำเร็จหลังจากนี้ไป เชื่อมั่นว่า บริษัทพลัสโกลด์จะเติบโตอย่างมั่นคงยิ่งขึ้น ด้วยผลิตภัณฑ์นวัตกรรมเพื่อสุขภาพที่ดีมีคุณภาพสูง ที่ผลิตโดยคนไทย เพื่อสุขภาพที่ดีคนไทยทุกคนและคนทั่วโลก ที่สำคัญจะช่วยผลักดันให้สมาชิกทำการตลาดได้ง่ายขึ้น จึงมั่นใจและตั้งเป้าหมายการทำยอดขายภายในระยะเวลา 2 ปี จะต้องกว้าสู่ยอดขาย 1,000 ล้านบาทแน่นอน
“ในเมื่อผลิตภัณฑ์ หยีชิงเฉา และจิวยากุ มีคุณสมบัติครบถ้วนสำหรับการทำตลาดเครือข่าย ก็จะทำให้นักธุรกิจพลัสโกลด์ขายได้แบบสบายใจ เมื่อมั่นใจก็สามารถเดินหน้าได้อย่างเต็มพิกัด โดยเฉพาะการได้รับการการันตีจากรางวัลระดับโลกจากนานาชาติ และมีงานวิจัยรองรับ รวมถึงมีคณาจารย์คณะผู้วิจัยที่อยู่เบื้องหลัง และยังได้ ดร.อัศวิน วัฒนปราโมทย์ มาเป็นที่ปรึกษา ถ้าเปรียบเสมือนผมเป็นเสือ ก็คือเสือติดปีกในตอนนี้ และผมจะต้องเป็นเบอร์หนึ่งของตลาดพลูคาว” |