3.1 การรับเรื่องร้องเรียน ให้ตรวจสอบเรื่องระบบสารสนเทศ เพื่อรองรับเรื่องร้องเรียนทางออนไลน์โดยใช้ E-Mail กลางของสำนักงาน คปภ. ภาค/จังหวัด และต้องมีการคัดกรองตรวจสอบประวัติผู้ขอรับบริการ เนื่องจากกระบวนการในการรับเรื่องร้องเรียนจะต้องใกล้ชิดกับผู้ขอรับบริการ รวมถึงกระบวนการอนุญาโตตุลาการ ให้ใช้ระบบการประชุมทางจอภาพ หรือส่งเอกสารโดยทางอิเล็กทรอนิคส์ไปยังคู่ความโดยตรง ทั้งนี้ให้อยู่ในดุลยพินิจของอนุญาโตตุลาการ หากมีปัญหาให้ประสานงานมายังสายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ต่อไป
3.2 ขอให้ชะลอ หรืองดการจัดสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตไปก่อน เพื่อลดความเสี่ยงต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 โดยจะกำหนดให้มีการปิดระบบการสมัครสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตเป็นตัวแทน-นายหน้าประกันภัย ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 เป็นต้นไป โดยสำนักงาน คปภ. จะออกคำสั่งเพื่อกำหนดมาตรการในการปฏิบัติงานต่อไป
3.3 ปรับระบบการจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้น โดยใช้ระบบออนไลน์เข้ามารองรับ โดยผ่าน E-mail กลาง และสำนักนายทะเบียนคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จะแจ้งเวียน E-mail กลาง สำหรับใช้ในการจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นให้สำนักงาน คปภ./จังหวัด ทราบและใช้ในการปฏิบัติงาน เพื่อมิให้กระทบต่อประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน
4. ขอให้เตรียมการประชาสัมพันธ์การเพิ่มความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2551 และการประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ซึ่งจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 โดยสามารถดำเนินการผ่านช่องทางต่าง ๆ ของจังหวัด ได้แก่ สถานีวิทยุ เว็ปไซด์ เฟสบุ๊ค เป็นต้น
“สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 มีความรุนแรงเพิ่มขึ้นและยังคงมีความต่อเนื่อง ดังนั้น จึงขอให้สำนักงาน คปภ.ภาค และจังหวัดบูรณาการการทำงาน เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการที่มีประสิทธิภาพสูงสุด และควรหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ซึ่งคณะผู้บริหาร คปภ. ทุกคน มีความห่วงใยและขอเป็นกำลังใจให้กับพนักงาน คปภ. และเจ้าหน้าที่ทุกคน รวมถึงครอบครัว ให้ผ่านพ้นวิกฤตสถานการณ์ดังกล่าว” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย
|