“หลักสูตรปริญญาตรีของคณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ นอกจากจะติดอาวุธเสริมความถนัดเฉพาะด้านแล้ว ยังเน้นให้นักศึกษาของเรา “ทำงานเป็น ทำงานได้ ไม่เสียเวลาเรียนรู้งาน” ซึ่งเป็นทักษะที่พึงประสงค์และจำเป็นของศตวรรตที่ 21 โดยนอกจากหลักสูตรจะเสริมทักษะด้านภาษาทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาที่สาม การคิดวิเคราะห์ และวิธีคิดแบบผู้ประกอบการแล้ว ในแต่ละวิชาจะมีผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อในวิชานั้นมาเป็นวิทยากรแลกเปลี่ยนเพิ่มพูนประสบการณ์ เสริมโลกทัศน์ให้กับนักศึกษา ที่สำคัญก่อนจบการศึกษานักศึกษาทุกคนต้องออกไปปฏิบัติงานจริงในหน่วยงานภาครัฐและเอกชนตามความถนัดของตนเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 ภาคการศึกษา และต้องผ่านการประเมิน อีกทั้งต้องทำ Mini thesis เพื่อตอบโจทย์ปัญหาที่พบในการปฏิบัติงาน นี่ถือเป็นการติดอาวุธให้กับบัณฑิตคณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ให้พร้อมรับกับการทำงานในศตวรรษที่ 21” ผศ.ดร.สมชาย กล่าว
ผศ.ดร.สมชาย กล่าวเสริมว่า “มีผู้สงสัยว่า ความเป็นผู้ประกอบการ ซึ่งเป็น DNA สำคัญอย่างหนึ่งของ DPU จะใช้กับนักศึกษากฎหมายได้อย่างไร จะสร้างนักกฎหมายให้ออกไปเป็นพ่อค้าหรืออย่างไร อันนี้เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เพราะเราเน้นให้นักศึกษาของเรามีทักษะ “วิธีคิด” แบบผู้ประกอบการไม่ได้เน้นให้ต้องไปเป็นผู้ประกอบการ แต่ต้องการให้เป็นผู้ที่เห็นปัญหาคือความท้าทาย คิดวิเคราะห์หาทางออกด้วยการสร้างสรรค์แนวทาง หรือวิธีการใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ดังกล่าวให้ได้ ทักษะเช่นนี้จำเป็นอย่างยิ่งใน โลกแคบลง ทุกอย่างเชื่อมโยงกัน ธุรกิจแปลกใหม่เกิดขึ้นทุกวัน นักกฎหมายยุคใหม่จึงไม่อาจรู้หรือเชี่ยวชาญเฉพาะกฎหมายอีกต่อไป แต่ยังต้องรอบรู้มิติอื่น ๆ ที่สัมพันธ์เชื่อมโยงกับกฎหมาย เป็นความรู้นอกตำรากฎหมายที่ไขว่คว้าได้ง่ายในโลกอินเตอร์เน็ต”
ทั้งนี้ สำหรับหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต ศ.ดร.ดร.สุนทร มณีสวัสดิ์ ผู้อำนวยการหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต มธบ. อธิบายว่ามีการจัดการเรียนการสอนในนักศึกษาเลือก 6 สาขา ได้แก่ (1) สาขากฎหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรมทางอาญา 2.สาขากฎหมายเอกชน 3.สาขากฎหมายมหาชน 4.สาขากฎหมายธุรกิจและนวัตกรรม 5.สาขากฎหมายการเกษตรทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม และ6.กฎหมายสาขาการแพทย์ ซึ่งทุกหลักสูตรที่เปิดการเรียนการสอนจะเป็นการเพิ่มทักษะ หรือ UPSKILL เพิ่มโอกาสในการเข้าสู่ตำแหน่งทางวิชาชีพที่คนจำนวนมากมุ่งหวัง เช่น ผู้พิพากษา อัยการ ที่ได้รับการยอมรับจากสังคมว่ามีความมั่นคงและเงินเดือนสูง
“การมาเรียนปริญญาโทด้านกฎหมายจะทำให้ทุกคนมีโอกาสมากขึ้น เพราะนอกจากจะสอบแข่งขันในสนามสอบสำหรับผู้จบปริญญาตรีที่เรียกกันว่า สนามใหญ่ แล้วยังมีโอกาสสอบแข่งขันในสนามสอบอีกสนามหนึ่งที่มีผู้แข่งขันน้อยกว่าหรือสนามสอบเล็กอีกด้วย ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการเข้าสู่ตำแหน่งผู้พิพากษาและอัยการมากขึ้น นอกจากนี้ หลักสูตรของเรายังมีการปรับปรุงใหม่เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง การผลิตบัณฑิตของหลักสูตรจึงมุ่งที่จะสร้างนักกฎหมายที่มีความทันสมัย ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกในทุกด้าน ทั้งด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ด้านธุรกิจ ด้านวิชาการอื่นๆ รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงทางสังคมด้วย ซึ่งการมีนักกฎหมายที่ทันสมัยจะทำให้สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ได้อย่างดี จะทำให้เป็นที่ต้องการองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชนและมีประโยชน์ต่อองค์กรนั้นๆ เดินหน้าทันโลกทันเหตุการณ์ด้วย”ศ.ดร.ดร.สุนทร กล่าว
อย่างไรก็ตาม โลกซับซ้อนขึ้น กฎหมายยิ่งซับซ้อนขึ้น โลกขยับเร็วขึ้นนักกฎหมายจะอ้อยอิ่งแบบเดิมได้อย่างไร?
“ความเป็นธรรมจะเกิดในสังคมได้อย่างไร ถ้านักกฎหมายล้าหลังไม่ทันโลก แต่ที่นี่...คณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ เราไม่ได้สร้างนักกฎหมายแบบนั้น แต่เรามุ่งมั่นที่จะสร้างนักกฎหมายที่สร้างสรรค์สังคม ทันสมัย รอบรู้และเป็นผู้นำในการปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพทั้งในหน่วยงานภาครัฐและเอกชน” ผศ.ดร.สมชาย กล่าวทิ้งท้าย
ผู้ที่สนใจอยากเป็นนักกฎหมายที่มีดีเอ็นเอใหม่ นักกฎหมายที่ฉีกจากนักกฎหมายทั่วไป นักกฎหมายที่สร้างสรรค์โอกาสด้วยทักษะพิเศษ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://law.dpu.ac.th/ หรือโทร 02-957-7300 ต่อ 279, 283, 308
|