ทั้งนี้ ช่องทางร้านค้าตัวแทนจำหน่ายรายย่อยคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 50% ของยอดขายรวม มีอัตราขยายตัวโดดเด่นอย่างต่อเนื่อง หลังจากห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ต้องปิดสาขาชั่วคราว อย่างไรก็ตาม ภายหลังภาครัฐคลายล็อกดาวน์ให้ช่องทางดังกล่าวกลับมาเปิดได้อีกครั้ง พบว่า ในเดือนมิถุนายนนี้ มีสัญญาณคำสั่งซื้อสินค้าเพิ่มเข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งบริษัทฯ ได้เตรียมสินค้าไว้พร้อมป้อนให้แก่ลูกค้ากลุ่มนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว
“เราประเมินในเบื้องต้นว่า ยอดขายครึ่งปีแรกจะชะลอตัวไม่มากนัก เนื่องจาก DRT มีจุดแข็งตั้งแต่การบริหารช่องทางการจัดจำหน่าย การจัดการด้านต้นทุนการผลิต และ Product Mix ช่วยลดความเสี่ยงของผลกระทบจากปัจจัยลบที่เกิดขึ้นได้เป็นที่น่าพอใจ โดยยังคงรักษาอัตราการทำกำไรขั้นต้นให้เป็นไปตามแผน” นายสาธิต กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DRT กล่าวว่า ส่วนภาพการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง ทิศทางจะไปในทางที่ดีขึ้น โดยบริษัทฯ พร้อมเดินหน้าตามแผนลงทุนตามเดิม โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินโครงการเพิ่มกำลังการผลิตไฟเบอร์ซีเมนต์ NT-11 เพื่อขยายกำลังการผลิตสินค้ากลุ่มไม้สังเคราะห์อีก 55,000 ตัน รองรับความต้องการใช้สินค้าที่สูงขึ้น ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายปีนี้และเริ่มเดินเครื่องจักรเชิงพาณิชย์ได้ในปีถัดไป นอกจากนี้ ยังทยอยลงทุนติดตั้งโรบอตในไลน์การผลิต ทดแทนการใช้แรงงานคนบางส่วนเพื่อยกระดับให้โรงงาน DRT ก้าวสู่การเป็น Smart Factory ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตด้วยต้นทุนการดำเนินงานที่ต่ำลงในระยะยาวอีกด้วย
|