คุณชื่นสุมณ เลขะกุล พยาบาลงานป้องกันและควบคุมเชื้อ โรงพยาบาลหนองจิก จังหวัดปัตตานี กล่าวเสริมว่า “พอมีโควิด-19 อุปกรณ์ป้องกันต่างๆ ก็เริ่มขาดแคลน ต้องจำกัดการใช้บ้าง หรือประยุกต์เอาถุงพลาสติกมาใช้บ้าง แต่ด้วยความช่วยเหลือจากบ้านปูฯ ทำให้เรามีอุปกรณ์ใช้อย่างเพียงพอ ซึ่งทำให้เราหายกังวลและรู้สึกปลอดภัย โรงพยาบาลหนองจิกเป็นเพียงโรงพยาบาลชุมชนขนาดเล็ก การได้รับบริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์จากบ้านปูฯ ถือเป็นกำลังใจสำคัญที่ทำให้พวกเราทุกคนมีแรงต่อสู้กันต่อไป”
“ถ้าไม่มีหน้ากาก เราได้เห็นรอยยิ้มของพวกเขาแน่นอน”
คุณมนูญ แสนไม้ กรรมการมูลนิธิอะมีรุลมุอ์มินีนเพื่อเด็กกำพร้า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ให้ความเห็นว่า “พอมีโควิด-19 เข้ามา ประชาชนหลายคนในพื้นที่ไม่สามารถออกไปทำงานตามปกติ เช่น กรีดยาง หรือออกไปค้าขายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตพื้นที่สีแดง ที่ทั้งการเข้าและออกจากพื้นที่
ยิ่งทำได้ยากขึ้น การให้ความช่วยเหลือของมูลนิธิฯ จึงมุ่งเน้นไปที่การนำข้าวสารอาหารแห้งไปมอบให้กับ
ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน โดยเราได้ประสานกับผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ต่างๆ เพื่อนับจำนวนครัวเรือนแล้ว
ลงพื้นที่ไปส่งมอบถุงยังชีพ แต่ด้วยกำลังของมูลนิธิฯ ลำพังจึงไม่สามารถทำได้อย่างเพียงพอ
ต้องขอขอบคุณทุกๆ หน่วยงานรวมถึงทางบ้านปูฯ ที่มองเห็นความสำคัญของการให้ความช่วยเหลือเด็กๆ และผู้ยากไร้ ผมรู้จากแววตาของพวกเขาว่า เด็กๆ และชาวบ้านที่มารับถุงยังชีพมีกำลังใจมากขึ้น
ผมคิดว่าถ้าเขาไม่สวมหน้ากากกันอยู่ เราได้เห็นรอยยิ้มของพวกเขาแน่นอน”
บ้านปูฯ มุ่งหวังว่าความช่วยเหลือในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มความพร้อมในการทำงานให้กับบุคลากรทางการแพทย์ พร้อมทั้งบรรเทาความเดือดร้อนให้กับคนไทยในพื้นที่ห่างไกล และจะเป็นการช่วยให้ประเทศชาติและประชาชนชาวไทยผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้โดยเร็ว
|