ด้านนายปิยะบุตร ชลวิจารณ์ ประธานอำนวยการ มูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย กล่าวว่า “มูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย ได้ร่วมกับมูลนิธิซิตี้ และ พอช. ดำเนินโครงการ “พัฒนาเครือข่ายองค์กรชุมชน เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงิน” มาเป็นระยะเวลา 3 ปีครึ่ง โดยมีผู้นำชุมชนจำนวน 226 คน และสมาชิกชุมชนจำนวน 2,032 คน จาก 49 ชุมชน ในจังหวัดกรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี และฉะเชิงเทรา ได้เข้าร่วมการอบรมเรื่องการบริหารจัดการการเงินกับมูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย ซึ่งผลความสำเร็จโครงการฯ ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทางด้านการเงินที่ดีขึ้น โดยผู้เข้าร่วมอบรมมีความรู้ทางการเงินเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 23% ซึ่งวัดผลจากแบบทดสอบก่อนและหลังการฝึกอบรม และสมาชิกชุมชนกว่า 90% มีการออมอย่างสม่ำเสมอ และกว่า 57% มีการจดบันทึกบัญชีครัวเรือนเป็นประจำ ตามลำดับ”
“หลังจากการดำเนินงานโครงการฯ ในปีที่ 1 และ 2 ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างองค์ความรู้และความเข้าใจให้แก่สมาชิกและผู้นำชุมชนเกี่ยวกับการบริหารการเงินส่วนบุคคล ปลูกฝังนิสัยการออม การใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ และการบริหารจัดการหนี้ครัวเรือน รวมถึงการสร้างผู้นำชุมชนให้สามารถนำความรู้ไปเผยแพร่และขยายผลให้กับสมาชิกในชุมชนต่อได้ ในปีที่ 3 ทางมูลนิธิซิตี้และมูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย จึงได้ยกระดับการดำเนินงานไปสู่การพัฒนาศักยภาพของผู้นำชุมชนให้มีความรู้ด้านการพัฒนาและบริหารโครงการในการสร้างอาชีพและต่อยอดความรู้ทางด้านการเงินภายในชุมชนต่าง ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาทางการเงินของแต่ละชุมชนได้อย่างแท้จริง ผ่านการเข้าร่วมกิจกรรมโครงการฯ ที่ช่วยสร้างรายได้ในครัวเรือน ลดภาระหนี้สิน และเพิ่มเงินออมให้แก่สมาชิกชุมชน”
“ตัวอย่างชุมชนที่ได้เข้าร่วมโครงการ “พัฒนาเครือข่ายองค์กรชุมชน เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงิน ปีที่ 3” ได้แก่ สหกรณ์เคหสถานบ่อฝรั่งริมน้ำพัฒนา จำกัด หรือ ชุมชนบ่อฝรั่ง ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของ 5 ชุมชนรอบบึงบางซื่อมาอาศัยอยู่ร่วมกันบนที่ดินขนาด 8 ไร่ และมีจำนวนสมาชิกทั้งหมด 250 ครัวเรือน ซึ่งนอกจากผู้นำและสมาชิกชุมชนจะได้รับการอบรมเรื่องการบริหารจัดการการเงินแล้ว ทางมูลนิธิฯ ยังได้จัดฝึกอบรมเกี่ยวกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน การสร้างแบรนด์ การออกแบบบรรจุภัณฑ์ การเล่าเรื่องราวผลิตภัณฑ์ชุมชน และการตลาดออนไลน์ จนเกิดเป็นผลิตภัณฑ์สบู่ออร์แกนิกแบรนด์บ้านบ่อฝรั่ง ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกในชุมชนนำออกไปจำหน่ายในวงกว้าง พร้อมกับมีแผนที่จะวางจำหน่ายผ่านทางช่องทางออนไลน์ในราคาที่ถูกกว่าสินค้าทั่วไปในท้องตลาด ผลจากการดำเนินโครงการสร้างอาชีพและการบริหารการเงินส่วนบุคคลทำให้สมาชิกในชุมชนนี้มีการออมเงินเพิ่มขึ้น มีรายได้เพิ่มขึ้น และมีการจดบันทึกบัญชีครัวเรือนเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 56% เมื่อเทียบกับก่อนดำเนินโครงการฯ”
“มูลนิธิคีนันแห่งเอเซียเชื่อมั่นว่า ด้วยการสนับสนุนจากมูลนิธิซิตี้และพอช. การดำเนินงานโครงการพัฒนาเครือข่ายองค์กรชุมชน เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินตลอด 3 ปีครึ่งที่ผ่านมา ไม่เพียงแต่จะสามารถช่วยบรรเทาภาวะหนี้ครัวเรือนให้กับหลายชุมชนได้ แต่ยังสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมทางการเงินที่ดีให้แก่สมาชิกชุมชน ให้รู้จักเก็บออม สร้างอาชีพของตัวเอง และหยุดพฤติกรรมที่ทำให้เกิดการใช้จ่ายเกินตัว ไม่ว่าจะเป็นการสูบบุหรี่ ดื่มสุรา การพนัน หรือการเกี่ยวข้องกับยาเสพติด นอกจากนี้โครงการดังกล่าวยังมีส่วนทำให้สมาชิกในหลายชุมชนหันมาเห็นคุณค่าและศักยภาพในตนเอง เคารพตัวเอง และมีความหวังในชีวิตมากยิ่งขึ้น ซึ่งภายหลังจากจบโครงการ ผู้นำชุมชนยังคงนำองค์ความรู้ไปถ่ายทอดอย่างต่อเนื่องให้แก่สมาชิกในชุมชนของตนเองและชุมชนใกล้เคียง รวมทั้งนำไปใช้ในการสร้างแผนพัฒนาชุมชนของตัวเอง ให้เกิดเป็นระเบียบปฏิบัติและกติกาภายในสังคมของชุมชนต่อไป อีกทั้ง พอช. ซึ่งเป็นองค์กรที่ให้การสนับสนุนชุมชนในการสร้างที่อยู่อาศัยและมีเครือข่ายชุมชนภายใต้การดูแลอยู่ทั่วประเทศกว่า 1,658 ชุมชน สามารถนำโมเดลการพัฒนาชุมชนที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของมูลนิธิซิตี้และมูลนิธิคีนันแห่งเอเซียไปต่อยอดและขยายผลไปยังชุมชนอื่น ๆ ทั่วประเทศต่อไป” นายปิยะบุตร กล่าวทิ้งท้าย
|