“จากจุดเด่นของโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ของการคมนาคมขนส่งและภาคอุตสาหกรรม ประกอบกับทางโครงการมีประเภทอาคารคลังสินค้าและโรงงานให้เลือกหลากหลาย รวมถึงมีพื้นที่เช่าที่อยู่ในเขตปลอดอาการหรือ Free Zone ที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับผู้นำเข้าและส่งออก จึงทำให้ผู้เช่ารายเดิมต้องการต่อสัญญาและเป็นที่สนใจจากผู้เช่ารายใหม่ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้กองทรัสต์มีการติดตามผู้เช่าเดิมอย่างต่อเนื่องและยังไม่พบว่ามีผู้เช่าที่ได้รับผลกระทบทางธุรกิจจนต้องปิดกิจการ ขณะเดียวกันก็ได้รุกหาผู้เช่ารายใหม่อย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มอัตราการเช่าพื้นที่สูงขึ้น” นางสาวอรอนงค์กล่าว
ทั้งนี้ ฐานะการเงินของกองทรัสต์ในปัจจุบันมีความแข็งแกร่ง ประกอบกับผลการดำเนินงานที่เป็นไปตามเป้าหมาย ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2563 จึงมีมติอนุมัติจ่ายประโยชน์ตอบแทนจากผลการดำเนินงาน ตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม - 30 กันยายน 2563 แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ในอัตรารวม 0.1227 บาทต่อหน่วย กำหนดปิดสมุดทะเบียนเพื่อกำหนดรายชื่อผู้ถือหน่วยทรัสต์ที่มีสิทธิได้รับประโยชน์ตอบแทน ในวันที่ 19พฤศจิกายน 2563 (Book Closing Date) และเตรียมจ่ายประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้
ขณะที่แนวโน้มความต้องการเช่าพื้นที่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ยังอยู่ในระดับที่ดี ปัจจุบันได้เจรจากับ
ผู้เช่ารายเดิมที่จะทยอยหมดสัญญาในช่วง 6 เดือนข้างหน้า และได้แสดงความต้องการต่อสัญญาเช่าแล้วมากกว่า 85% รวมถึงได้ขยายฐานผู้เช่ารายใหม่เพิ่มเติมทั้งในและต่างประเทศ โดยกรณีผู้เช่าจากต่างประเทศที่ยังไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้นั้น กองทรัสต์บริหารจัดการโดยให้ลูกค้าวางเงินมัดจำล่วงหน้าผ่านตัวแทนในประเทศไทยเพื่อจองพื้นที่ จึงมั่นใจว่าในช่วงไตรมาสสุดท้ายจะสามารถรักษาอัตราการเช่าพื้นที่อยู่ในระดับสูงกว่า 90% ได้ เนื่องจากมีผู้เช่าที่กระจายตัวอยู่ในอุตสาหกรรมที่หลากหลายช่วยลดความเสี่ยงเมื่อเกิดภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
|