นอกจากนี้ กรมชลประทานยังได้วางแผนก่อสร้างอาคารบังคับน้ำในแม่น้ำยมเป็นช่วงๆ แบบขั้นบันได เพื่อให้สามารถบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำยมได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดลำน้ำ ประกอบด้วย ประตูระบายน้ำ (ปตร)บ้านวังน้ำเย็น ประตูระบายน้ำบ้านหาดอ้อน ประตูระบายน้ำบ้านบานชื่น และประตูระบายน้ำบ้านเกาะน้อย รวมทั้งก่อสร้าง ฝายอีก 2 แห่ง คือฝายบ้านหาดรั่ว และ ฝายบ้านสุเม่น
นายเฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์ รองอธิบดีฝ่ายวิชาการ กรมชลประทาน กล่าวว่า กรมชลประทานมุ่งออกแบบก่อสร้างเชิงวิศวกรรมชลประทานให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่และความต้องการของประชาชนแต่ละท้องถิ่น สำหรับลุ่มน้ำยมในพื้นที่จังหวัดพิจิตร สุโขทัย และพิษณุโลก สภาพพื้นที่ไม่เอื้อต่อการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ จึงปรับมาใช้แผนก่อสร้างประตูระบายน้ำ และสร้างฝายกันน้ำเป็นช่วงๆ ตามความเหมาะสมของสภาพภูมิประเทศ แต่ละแห่งสามารถเก็บกักน้ำได้ประมาณ 2,000,000 - 10,000,000 ลบ.ม.รวมๆแล้วก็เกือบ 100 ล้านลบ.ม. ก็ช่วยลดปัญหาภัยธรรมชาติและเพิ่มประสิทธิภาพระบบชลประทานในท้องถิ่นได้อย่างดี
กรมชลประทานยอมรับว่า การก่อสร้างฝายมีศักยภาพในการเก็บกักน้ำ เทียบเท่าประตูระบายน้ำไม่ได้ เพราะฝายเก็บกักน้ำได้น้อยกว่า แถมลุ่มน้ำยมมีปัญหาชะล้างหน้าดินค่อนข้างเยอะ หากเป็นโครงการประตูระบายน้ำ สามารถยกบานประตูขึ้น เพื่อให้ตะกอนดินไหลออกไปตามลำคลอง ก็ช่วยแก้ปัญหาได้ แต่ฝายทำไม่ได้ มักมีตะกอนดินไหลมากองอยู่หน้าฝายทำให้เกิดปัญหาดินทับถมบ่อยครั้ง กรมชลประทานจึงส่งเสริมให้ชาวบ้านปลูกหญ้าแฝกและปลูกไม้ยืนต้นในแหล่งต้นลำธาร เพื่อลดปัญหาการชะล้างหน้าดิน เก็บรักษาความชุ่มชื้นในดิน ลดปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วมอีกทางหนึ่ง
เพื่อให้แผนการก่อสร้างประตูระบายน้ำและฝายกันน้ำทุกโครงการเป็นที่ยอมรับจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้ที่ได้รับผลกระทบ ผู้ได้รับประโยชน์ กรมชลประทานได้เปิดโอกาสให้ประชาชน องค์กรส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดตำแหน่งที่ตั้งโครงการ รูปแบบหัวงาน และระดับเก็บกักน้ำที่เหมาะสม
“ กรมชลประทานได้เปิดโอกาสให้ชาวบ้านในชุมชนได้มีส่วนร่วมในการตั้งชื่อประตูระบายน้ำแต่ละแห่งให้สอดคล้องกับอัตลักษณ์ของชุมชน เช่น ปตร.บ้านวังน้ำเย็น เปลี่ยนชื่อเป็น ปตร.วัดพระธาตุแหลมลี่ ปตร.บ้านหาดอ้อน เปลี่ยนเป็น ปตร.ขอนไม้แดง ปตร.บ้านบาน ชื่อเปลี่ยนเป็น ปตร.เวียงเชียงชื่น ปตร.บ้านเกาะน้อย เปลี่ยนเป็น ปตร.หาดเสี้ยว ให้สอดคล้องกับเป็นอัตลักษณ์เด่นของชุมชน คือ ผ้าหาดเสี้ยว (ลายผ้าตีนจก) กรมชลประทานวางแผนออกแบบก่อสร้างประตูระบายน้ำแห่งนี้ให้มีลวดลายผ้าตีนจกซึ่งเป็นสัญญลักษณ์ของผ้าหาดเสี้ยวด้วย เพื่อเพิ่มความสวยงามแก่สถานที่ สร้างความภูมิใจแก่ชุมชนท้องถิ่น ส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวได้แวะเข้ามาเช็คอินที่ประตูระบายน้ำแห่งนี้ในอนาคต” นายเฉลิมเกียรติกล่าว
ปัจจุบัน กรมชลประทานได้ศึกษาความเหมาะสม ในการก่อสร้างอาคารบังคับน้ำในแม่น้ำยมทุกโครงการเสร็จเรียบร้อยแล้ว และจัดทำรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เสนอต่อสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เพื่อพิจารณาเห็นชอบและดำเนินการก่อสร้างต่อไป
หากเป็นไปตามแผนที่กำหนด กรมชลประทานคาดว่าจะเริ่มต้นก่อสร้างประตูระบายน้ำได้ภายในปี 2565 -2566 ใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี เมื่อโครงการเสร็จสมบูรณ์จะมีพื้นที่การเกษตรได้รับประโยชน์จากโครงการมากกว่า 100,000 ไร่ ทำให้พี่น้องประชาชนกว่า 12,000 ครัวเรือนมีความสุขเพิ่มมากขึ้นเพราะช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้ง มีแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร |