ด้านนายพงชาญ สำเภาเงิน ประธานกรรมการ บริษัท สกายเวลล์ ลีสซิ่ง จำกัด (SKY-L) กล่าวว่า ภารกิจหลักของบริษัทฯ คือ การสนับสนุนธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ให้เช่า ร่วมกับพันธมิตรซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นหลักอย่าง “ดีจริง ออโต้” โดยโครงการแรก บริษัทฯ ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงกับผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่น Fresh Line (เฟรช ไลน์) ซึ่งเป็นผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตเคลื่อนที่ โดยเบื้องต้น คาดว่า Fresh Line จะจัดหาผู้ประกอบการรายย่อยเข้ามาร่วมธุรกิจรถซูเปอร์มาร์เก็ตเคลื่อนที่ โดยมีเป้าหมายในระยะแรกจำนวน 500 คันภายในไตรมาสแรกของปี 2564
“รถซูเปอร์มาร์เก็ตเคลื่อนที่ของ Fresh Line ไม่ได้จำกัดแค่การขายกับข้าว อาหารสด หรือผลไม้สด เหมือนรถขายกับข้าวทั่วไป เพราะสินค้าของ Fresh Line จะมีความหลากหลายกว่า มีทั้งของอุปโภคบริโภคที่เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง โดยช่วงแรกเราคาดว่า รถให้เช่าและเช่าซื้อในโครงการของ Fresh Line จะเป็นรถยนต์ทั่วไปในสัดส่วน 75% และเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 25% ซึ่งข้อดีของรถยนต์ไฟฟ้าจะสามารถควบคุมอุณหภูมิของอาหารสดได้ โดยมีตู้แช่อาหารเป็นส่วนหนึ่งของรถ ซึ่งถือเป็นอีกมิติของบริการขนส่ง ขณะเดียวกัน เรายังได้ประสานความร่วมมือกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่จะสนับสนุนสถานีชาร์จไฟฟ้า รวมถึงร่วมมือกับพันธมิตรรายอื่นที่จะทำให้สถานีบริการกระจายครอบคลุมได้ทั่วประเทศ” นายพงชาญกล่าว
นอกจากนี้ SKY-L ยังจะเดินหน้าผลักดันโครงการรถขนส่งสาธารณะหรือรถแท็กซี่ไฟฟ้า (EV) ซึ่งปัจจุบันรถแท็กซี่ที่ให้บริการทั่วไปมีสภาพเก่าและไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การใช้รถยนต์ไฟฟ้าจะก่อให้เกิดผลดีกับสภาพแวดล้อม ขณะที่ผู้ขับขี่สามารถประหยัดค่าบำรุงรักษา ประหยัดค่าพลังงาน และราคารถยนต์ไฟฟ้าอาจจะมีราคาใกล้เคียงหรือถูกกว่าราคารถยนต์ทั่วไป ซึ่งสุดท้ายแล้วจะทำให้ผู้ขับขี่มีรายได้เพิ่มขึ้น โดยบริษัทฯ พร้อมสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าทั้งให้เช่าซื้อรวมถึงให้เช่าขับ ทั้งนี้ เชื่อว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2564 อุตสาหกรรมรถขนส่งสาธารณะจะมีทิศทางที่ดีขึ้นหลังจากประสบปัญหาซบเซาจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งการฟื้นตัวดังกล่าวจะทำให้มีผู้ใช้บริการมากขึ้น และเชื่อว่าผู้ขับขี่ในนามส่วนบุคคล รวมถึงสหกรณ์แท็กซี่ จะสนใจเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าในการให้บริการมากขึ้น ซึ่งคาดว่า ในช่วงแรก SKY-L จะสามารถให้บริการรถแท็กซี่ไฟฟ้าให้เช่าซื้อและให้เช่าขับได้ราว 400 คันต่อเดือน
“หลังเกิดการแพร่ระบาดของโควิด ทำให้ธุรกิจโลจิสติกส์เติบโตอย่างมาก เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป นิยมซื้อของออนไลน์มากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการโลจิสติกส์จำนวนมากมีความสนใจที่จะใช้รถยนต์ไฟฟ้าให้เช่า สะท้อนว่าธุรกิจนี้ยังมีศักยภาพในการเติบโตอีกมาก และถือเป็นโอกาสในการขยายธุรกิจของเรา ขณะที่หน่วยงานรัฐและรัฐวิสาหกิจต่างให้การสนับสนุนสถานีบริการชาร์จไฟฟ้า ซึ่งเมื่อสถานีบริการครอบคลุมทั่วประเทศก็จะสร้างความสะดวกให้กับรถยนต์ไฟฟ้าได้มากยิ่งขึ้น” ประธานกรรมการ SKY-L กล่าว
พร้อมกันนี้ SKY-L มีแผนที่จะขยายกิจการสู่ธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อผู้ประกอบอาชีพหรือนาโนไฟแนนซ์ โดยให้สินเชื่อสำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระหรือผู้ที่มีรายได้ไม่แน่นอน เช่น พ่อค้าแม่ค้า ผู้ประกอบการค้าที่เป็นทะเบียนการค้า หรือเป็นพนักงานประจำที่มีฐานเงินเดือนต่ำกว่า 15,000 บาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินไปประกอบอาชีพหรือต่อยอดกิจการ รวมทั้งแก้ไขหนี้นอกระบบ โดยลูกค้าสามารถกู้เงินได้สูงสุดรายละไม่เกิน 1 แสนบาท ซึ่งจะสอดรับกับโครงการเปิดรับผู้ประกอบการรายย่อยเข้าร่วมโครงการรถซูเปอร์มาร์เก็ตเคลื่อนที่ของ Fresh Line รวมถึงโครงการรถแท็กซี่ EV และโครงการอื่นๆ ในอนาคตอีกด้วย
|