พลัสฯ ท็อปฟอร์มกวาด 8 รางวัลบริหารอาคารโดดเด่น
· รางวัลระดับไดมอนด์ (ขั้นสูงสุด) จำนวน 3 รางวัล จากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในอาคารสำนักงานใหญ่ (HQ), Plaza East และ Plaza West
· ระดับแพลตตินั่ม จำนวน 1 รางวัล จากอาคารจัตุรัสจามจุรี
· ระดับโกลด์ 1 รางวัล จากอาคารธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาเพลินจิต
· ระดับบรอนซ์ 3 รางวัล จากอาคารชับบ์ ของบริษัท ชับบ์สามัคคีประกันภัย จำกัด (มหาชน), อาคารสิรินรัตน์ และอาคารเอ็ม เอส ไอ จี ของบริษัท เอ็ม เอส ไอ จี ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
“8 รางวัลที่พลัสฯ ได้รับร่วมกับเจ้าของอาคารในปีนี้ เป็นการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยให้เหนือกว่าเกณฑ์ในภาคธุรกิจโดยทั่วไป เนื่องจากรางวัล BSA Building Safety Award เป็นรางวัลที่การันตีมาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูงสุดในระดับประเทศ เป็นการกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยในองค์รวม ตั้งแต่ความปลอดภัยทางกายภาพของตัวอาคาร ความปลอดภัยเชิงระบบ การบริหารจัดการด้านความปลอดภัย การจัดการด้านอัคคีภัย รวมถึงความปลอดภัยด้านสุขอนามัยจากสถานการณ์ของโควิด-19 ซึ่งธุรกิจบริหารอาคารสำนักงานของพลัสฯ ได้รับการตอบรับอย่างโดดเด่น เนื่องจากลูกค้าให้ความไว้วางใจในการทำงานที่ครอบคลุมทุกมิติ โดยเฉพาะเรื่องของความปลอดภัยที่อาคารสำนักงานยังคงให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง จุดแข็งของพลัสฯ ในการเป็นพาร์ทเนอร์อย่างมืออาชีพ ที่พร้อมให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการ / เจ้าของอาคาร เพื่อการบรรลุเป้าหมาย และยกระดับมาตรฐานของงานบริหารจัดการอาคารในทุกแง่มุมในแต่ละอาคาร ซึ่งเป็นการส่งมอบประสบการณ์และการบริการที่ดีที่สุด ร่วมด้วยการนำความเชี่ยวชาญทั้งด้านการดูแลโครงสร้าง ระบบวิศวกรรมอาคารด้วยทีมวิศวกรมืออาชีพ รวมถึงมีระบบบริหารด้านความปลอดภัยของอาคารที่ทันสมัยด้วยการนำเทคโนโลยี AI และ IoT มาใช้ในการสังเกตการณ์และแจ้งเตือนเพื่อป้องกันการเกิดเหตุต่างๆ จึงทำให้สามารถสร้างผลงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายชาญ กล่าว
อนึ่ง ในปี 2564 นี้ พลัสฯ วิเคราะห์ว่าเทรนด์ที่จะมาขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาคารสำนักงานงานคือเรื่องสุขภาพและสุขภาวะ (Health & Wellness) เพื่อให้ผู้ใช้อาคารมีความปลอดภัยทั้งด้านสุขภาพกายและสุขภาพใจอย่างยั่งยืน รวมถึงการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในด้านระบบวิศวกรรมอาคารที่จะเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องการนำ AI และ IoT เข้ามาใช้ในด้านความปลอดภัยและระบบวิศวกรรมอาคาร เช่น การนำเซนเซอร์มาติดไว้ในระบบที่สำคัญของอาคาร เพื่อให้สามารถแจ้งเตือนไปยังผู้ควบคุมเมื่อเกิดความผิดปกติ นอกจากนี้ยังรวมถึงการนำเอาเทคโนโลยีไร้สัมผัสมาใช้ในอาคาร เช่น ระบบสแกนใบหน้า และระบบสแกนทะเบียนในการดูแลลานจอดรถ เพื่อลดการสัมผัสซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการรักษาระยะห่างในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19