นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2563
เผยผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมไทย ตื่นตัวด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรม
พร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงและก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0
|
|
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2563 (The Prime Minister's Industry Award 2020) ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 28 โดยมี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม ข้าราชการ และผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมร่วมงานกว่า 350 คน ทั้งนี้ ภายในงานมีการจัดนิทรรศการแสดงผลงานและความสำเร็จของผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2563 จำนวน 79 รางวัล ประกอบด้วย รางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม 1 รางวัล รางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 48 รางวัล และรางวัลอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมดีเด่น 30 รางวัล พร้อมมอบรางวัลชมเชย 5 รางวัลเพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้ประกอบการในการพัฒนาธุรกิจและอุตสาหกรรมของประเทศต่อไป |
|
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความยินดีกับผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2563 พร้อมเน้นย้ำว่า ภาคอุตสาหกรรม มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศไปสู่ยุค 4.0 โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่แนวโน้มเศรษฐกิจของโลกมีการเปลี่ยนแปลงและเติบโตอย่างรวดเร็ว การนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้เสริมสร้างศักยภาพทั้งด้านการผลิต และผสานความคิดสร้างสรรค์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์สินค้า ถือเป็นการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับภาคอุตสาหกรรมไทย ตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งเน้นการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศและนำประเทศไปสู่ ประเทศไทย 4.0 |
|
“การพัฒนาภาคอุตสาหกรรมไปสู่เป้าหมายหลักของประเทศนั้น หัวใจสำคัญ คือ ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม ซึ่งต้องร่วมมือร่วมใจกันขับเคลื่อนพัฒนาเพื่อให้เกิดคุณภาพมาตรฐาน นำเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ในการบริหารจัดการ ปรับปรุงระบบการผลิตและการให้บริการอย่างเหมาะสมสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงและแนวโน้มเศรษฐกิจของโลก เพื่อทำให้เกิดศักยภาพทางการแข่งขันในตลาดสากลได้อย่างมั่นคง เข้มแข็งต่อไป”นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้ฝากให้ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมไทย คำนึงถึงความใส่ใจต่อผู้บริโภค ความปลอดภัย และช่วยกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมทั้งชุมชนโดยรอบและของประเทศอย่างสมดุล รวมทั้งเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมรายอื่นๆ นำไปปรับใช้และปฏิบัติตาม
|
|
ด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า จากสถานการณ์และการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจของโลกที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้ประกอบการเกิดความตระหนักและตื่นตัว ในการพัฒนาธุรกิจเพื่อให้พร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงและโอกาสใหม่ๆ เพื่อก้าวไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 โดย กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ดำเนินการตามนโยบายหลักของรัฐบาลในการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมสู่ 4.0 เพื่อขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศให้เกิดความมั่นคง และเข้มแข็ง โดย กำหนดเป้าหมาย ยุทธศาสตร์ และออกมาตรการเชิงบูรณาการอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการ ทั้งภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ขนาดกลางและขนาดเล็ก ให้เข้าถึงและสามารถใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการพัฒนาบุคลากรให้ตอบโจทย์อุตสาหกรรมเป้าหมาย เร่งสร้างทักษะ ปรับปรุง และพัฒนาองค์ความรู้ต่าง ๆ อย่างสอดคล้องกับสภาวการณ์การแข่งขันในปัจจุบันและอนาคต |
|
ทั้งนี้การมอบรางวัลอุตสาหกรรม นับเป็นกิจกรรมหลักในการสนับสนุน ส่งเสริม และพัฒนาผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรม ให้มีคุณภาพมาตรฐาน และเสริมสร้างความพร้อมในการแข่งขันระดับสากลอีกด้วย สำหรับรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2563 คณะกรรมการได้พิจารณาตัดสินตามเกณฑ์ที่กำหนด โดยมีผู้ประกอบการได้รับรางวัลรวม 79 ราย จากผู้สมัครทั้งสิ้น 260 ราย ประกอบด้วย |
|
1. รางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม 1 รางวัล ผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลในปีนี้ คือ บริษัท เอฟแอนด์เอ็น แดรี่ส์ (ประเทศไทย)จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ภายใต้ตราสินค้า คาร์เนชัน ทีพอท แมกโนเลีย ตราหมี ฯลฯ ซึ่งการันตรีความสำเร็จด้วยมาตรฐานความเป็นเลิศ 3 ด้าน ได้แก่ รางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น ประจำปี 2557 ประเภทการเพิ่มผลผลิต รางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น ประจำปี 2558 ประเภทการจัดการพลังงาน และรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น ประจำปี 2560 ประเภทการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม สำหรับรางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม เป็นการพิจารณาตัดสินจากผู้ที่เคยได้รับรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่นมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ประเภทรางวัล โดยปีนี้มีผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือก จำนวน 3 ราย |
|
2. รางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น จำนวน 48 รางวัล แบ่งออกเป็น 8 ประเภทรางวัล ได้แก่ ประเภทการเพิ่มผลผลิต จำนวน 2 รางวัล, ประเภทการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม จำนวน 4 รางวัล, ประเภทการบริหารความปลอดภัย จำนวน 4 รางวัล, ประเภท การบริหารงานคุณภาพ จำนวน 14 รางวัล, ประเภทการจัดการพลังงาน จำนวน 6 รางวัล, ประเภทการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน จำนวน 4 รางวัล, ประเภทอุตสาหกรรมศักยภาพ จำนวน 6 รางวัล, และประเภทความรับผิดชอบต่อสังคม จำนวน 8 รางวัล
3. รางวัลอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมดีเด่น จำนวน 30 รางวัล แบ่งออกเป็น 4 ประเภทรางวัล ได้แก่ ประเภทการบริหารจัดการ จำนวน 6 รางวัล, ประเภทการพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงสร้างสรรค์ จำนวน 10 รางวัล,ประเภทการจัดการเทคโนโลยีเชิงนวัตกรรม จำนวน 11 รางวัล และประเภทบริหารธุรกิจสู่สากล จำนวน 3 รางวัล
นอกจากนี้ ยังได้มีการพิจารณามอบรางวัลชมเชย ให้กับผู้ประกอบการในส่วนของรางวัลอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมดีเด่น อีกจำนวน 5 รางวัล เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้ประกอบการในการปรับปรุงพัฒนาธุรกิจต่อไป |
|
|
|
|
|