“ทิศทางการเติบโตในปีหน้าบริษัทฯ มุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น พิถีพิถันในการคัดเลือกวัสดุ รวมถึงการคัดสรรเทคโนโลยีต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันให้กับลูกค้า โดยเจาะกลุ่มลูกค้า Mid to High Tier เพราะจากการสำรวจความต้องการของตลาดกลุ่มนี้ยังมีกำลังซื้อค่อนข้างสูง ในขณะเดียวกัน ก็เป็นกลุ่มที่มองหาสิ่งใหม่ๆ สะท้อนความเป็นตัวตนตามไลฟ์สไตล์ของผู้ซื้อ จึงนับเป็นโอกาสที่ดีในการขยายฐานลูกค้าของบริษัทฯ รวมถึงมีแผนงานที่จะพัฒนาโครงการแนวสูงปีละ 1-2 โครงการ และโครงการแนวราบปีละ 2-3 โครงการ”
ด้าน นายองคฤทธิ์ พรหมโยธี ประธานบริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ณวรางค์ แอสเซท จำกัด (Mr. Onkarit Phromyothi, Chief Operating Officer of Navarang Asset Co., Ltd.) กล่าวว่า สำหรับทั้ง 3 โครงการที่กำลังจะเปิดขายในปี 2564 ได้แก่ โครงการ ณ ไอรา สายลม-อารีย์ (Na Ira Sailom-Ari) เป็น Vertical Residence สูง 7 ชั้น จำนวนเพียง 5 ยูนิต ตั้งอยู่ในซอยสายลม (พหลโยธิน ซ.8) มูลค่ารวม 220 ล้านบาท พื้นที่ใช้สอยมากกว่า 400 ตารางเมตร/ยูนิต ราคาเริ่มต้น 38 ล้านบาท โครงการ รามอินทรา-วงแหวน บ้านเดี่ยว จำนวน 18 ยูนิต มูลค่ารวม 280 ล้านบาท ขนาดพื้นที่เริ่มต้น 60 ตารางวา ราคาขายเฉลี่ย 15 ล้านบาท ทั้ง 2 โครงการจะเริ่มเปิดขายประมาณไตรมาส 1/2564 และคอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักซัวรี่บนทำเลหลังสวน 1 โครงการ มูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท มีแผนที่จะเริ่มเปิดขายภายในปี 2564
“ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว นอกจากจะต้องการที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ทางด้านปัจจัยภายนอก อาทิ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในเรื่องของดีไซน์การออกแบบก็มีส่วนสำคัญ โครงการ ณ ไอรา สายลม-อารีย์ ถูกออกแบบภายใต้คอนเซปต์ Modern Nordic Classic เน้นความหรูหรา แต่ยังคงคำนึงถึงพื้นที่ใช้สอยภายในรวมทั้งหมด 7 ชั้น โดยจุดเด่นของโครงการ คือ สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นภายในบ้านให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย อีกทั้งมีการจัดวางสระว่ายน้ำไว้บนชั้น Rooftop ซึ่งบริเวณนี้เชื่อมต่อไปยังห้องอเนกประสงค์ เพื่อรองรับกิจกรรมของคนในบ้านได้ทุกเพศทุกวัย ในส่วนของ โครงการรามอินทรา-วงแหวน บริษัทฯ ได้ออกแบบพื้นที่ใช้สอยให้เชื่อมต่อกันระหว่างพื้นที่ภายในและภายนอก ผู้อยู่อาศัยจะได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติรอบบ้านและมองเห็นสระว่ายน้ำจากบริเวณห้องนั่งเล่น รวมถึงการออกแบบที่คำนึงถึงผู้สูงอายุ (Universal Design)”
ด้านการตลาด บริษัทฯ เน้นสื่อโฆษณาด้านออนไลน์ (Online Marketing) รวมถึงการจัดอีเว้นท์ เพื่อสร้างการรับรู้ (Brand Awareness) และสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า ทั้งนี้เพื่อเข้าถึงพฤติกรรมของผู้บริโภครุ่นใหม่ได้ทุกช่วงเวลาของวัน เป็นวิธีที่ทำให้ลูกค้ารู้จักสินค้าของเราได้อย่างกว้างขวาง อีกทั้งการเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสังคม (Corporate Social Responsibility) ซึ่งเป็นแนวคิดขององค์กรในการร่วมเป็นส่วนหนึ่งเพื่อดูแลชุมชนโดยรอบโครงการและสร้างประโยชน์ให้กับสังคม
“ณวรางค์ แอสเซท ยังคงเน้นย้ำเรื่องการพัฒนาสินค้า เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกๆ โครงการ และยังคงมุ่งหน้าดำเนินธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยในปี 2564 ตั้งเป้าเติบโต 10% จากปี 2563 หรือคิดเป็นยอดขายประมาณ 1,000 ล้านบาท” นายอภิภู กล่าวทิ้งท้าย
|