เมื่อปี 2562 บริษัทข้อมูลการตลาดระดับโลก International Data Corporation (IDC) ได้คาดการณ์อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศของไทยไว้ว่า กว่า 61% ของจีดีพีจะอยู่ในรูปแบบดิจิทัลภายในปี 2565 เมื่อถึงเวลานั้น การเติบโตในทุกอุตสาหกรรมจะขับเคลื่อนด้วยบริการ การดำเนินงาน และความสัมพันธ์แบบดิจิทัล และหนุนการใช้จ่ายด้านไอทีคิดเป็นมูลค่า 7.2 หมื่นล้านดอลลาร์ระหว่างปี 2562-2565 ดังนั้น บรรดาผู้นำธุรกิจในประเทศไทยจึงจำเป็นต้องหันมาใช้เทคโนโลยีเกิดใหม่เพื่อคว้าโอกาสจากการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลโฉมใหม่
การลงนามในความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) เมื่อเร็ว ๆ นี้ ถือเป็นการเริ่มต้นเขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยก่อให้เกิดความร่วมมือที่ทันสมัย ครอบคลุม มีคุณภาพ และสร้างประโยชน์ให้แก่ทุกฝ่าย ซึ่งคาดว่าจะช่วยส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของทุกประเทศที่เข้าร่วม ซึ่งรวมถึงประเทศไทย โดย RCEP มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความพยายามของไทย ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในการบรรลุวิสัยทัศน์การพัฒนาสู่ยุคดิจิทัลและเสริมสร้างขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง
ในโอกาสนี้ H3C ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์และโซลูชันใหม่ ประกอบด้วยโซลูชันเครือข่ายอัจฉริยะแห่งอนาคต Application-Driven Networking (AD-NET) 5.0 และผลิตภัณฑ์ HCI (Hyper Converged Infrastructure) รุ่นล่าสุดอย่าง UIS (Unified Infrastructure System) 7.0 นอกจากนี้ บริษัทยังได้แบ่งปันกรณีศึกษาที่ประสบความสำเร็จอย่างกว้างขวางจากการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในระดับท้องถิ่น
คุณอเล็กซ์ ชู ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท H3C กล่าวว่า เศรษฐกิจดิจิทัลของไทยกำลังเฟื่องฟู พร้อมเสริมว่า บริษัทได้สั่งสมความแข็งแกร่งทางเทคโนโลยีและประสบการณ์ความสำเร็จตลอดหลายปีที่ผ่านมา และยินดีที่จะสำรวจและเติบโตไปพร้อมกับตลาดในประเทศไทยต่อไป
"H3C มุ่งมั่นที่จะช่วยยกระดับนวัตกรรมและประสิทธิภาพการดำเนินงานของรัฐบาล รวมถึงภาคส่วนต่าง ๆ เช่น การศึกษาและการเงิน ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ "Thailand 4.0" พร้อมส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลอย่างครอบคลุมมากขึ้นในประเทศไทย" คุณอเล็กซ์ ชู กล่าว
|