สำหรับแผนดำเนินงานในธุรกิจจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์นั้น JKN จะตอกย้ำจุดแข็งด้านความหลากหลายของกลุ่มคอนเทนต์ รวม 8 กลุ่ม ครอบคลุมทุกความบันเทิงและสาระความรู้ ได้แก่ ซีรีส์จีน ซีรีส์อินเดีย ซีรีส์ฟิลิปปินส์ และสารคดีจากแบรนด์ดังระดับโลก รวมถึง บริษัทฯได้เริ่มผลิตคอนเทนต์รูปแบบรายการแนวไลฟ์สไตล์ อาหาร และสุขภาพ โดยใช้จุดแข็งด้าน CEO Branding ที่สร้างกระแสความนิยมให้แก่ผู้ชม เพื่อออกอากาศผ่านสถานีทีวีดิจิทัลและผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลของบริษัทฯ ซึ่งช่วยส่งเสริมธุรกิจ COMMERCE สินค้าสุขภาพและความงาม อีกทางหนึ่งด้วย
“ในปีนี้ JKN จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์อย่างเต็มตัว โดยในปีที่ผ่านมา JKN ได้เริ่มผลิตรายการแนวไลฟ์สไตล์บ้างแล้ว ซึ่งต่อยอดจากจุดแข็งของเราที่มีความเชี่ยวชาญด้านการทำตลาดและทีมงานที่มีความเป็นมืออาชีพ รวมถึงการมี CEO-Branding ที่แข็งแกร่ง ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยสร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้แก่วงการทีวีในเมืองไทยอย่างแน่นอน” คุณแอน-จักรพงษ์ กล่าว
ส่วนตลาดต่างประเทศ JKN มีแผนรุกขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยเน้นการนำลิขสิทธิ์คอนเทนต์ซีรีส์ละครไทย ช่อง 3 ไปเปิดตลาดในภูมิภาคอื่นๆ เพิ่มเติม รวมถึง บริษัทฯ มีพันธมิตรทางธุรกิจอย่างช่อง 8 และช่อง PPTV ที่ไว้วางใจให้ JKN นำลิขสิทธิ์คอนเทนต์ไปจำหน่ายยังตลาดต่างประเทศเพิ่มเติม ซึ่งบริษัทฯ พร้อมนำความเชี่ยวชาญด้านการทำตลาดไปสร้างกระแสละครไทยให้โด่งดังไปทั่วโลก ส่งผลให้ปี 2564 จะมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มขึ้น จาก ณ สิ้นปี 2563 ที่มีสัดส่วนรายได้ใกล้แตะ 40%
|