นายจุมพล กล่าวว่า จากความน่าสนใจของการลงทุนภายใต้ธีมดังกล่าว ขอแนะนำทางเลือกการลงทุนในกองทุนเปิด ‘พรินซิเพิล โกลบอล ออพพอร์ทูนิตี้’ หรือ Principal Global Opportunity Fund (PRINCIPAL GOPP) โดยกองทุน PRINCIPAL GOPP-A ให้ผลตอบแทนการลงทุนในปี 2563 อยู่ที่ 52.91% ดีกว่าดัชนีเปรียบเทียบที่ 18.56% กองทุนนี้เน้นการลงทุนในธุรกิจที่มีการวางกลยุทธ์และศักยภาพการแข่งขันที่ดีท่ามกลางกระแส Disruptive โดย PRINCIPAL GOPP นับเป็นกองทุนรวมกองแรกและกองทุนเดียวในประเทศไทยในปัจจุบันที่เข้าลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ Morgan Stanley Investment Funds Global Opportunity Funds เป็นกองทุนหลัก เน้นคัดเลือกบริษัทที่มีคุณภาพดี มีความสามารถปรับตัวสูง มีขีดความสามารถการแข่งขันและแนวโน้มเติบโตได้ดี ตลอดจนดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล โดยกองทุนดังกล่าวยังสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว โดยผลตอบแทนในช่วง 3 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 21.84% ต่อปี ดีกว่าดัชนีอ้างอิง MSCI Country World Index ที่สามารถสร้างผลตอบแทนในช่วงเดียวกัน 7.76%
ทั้งนี้ สำหรับตัวอย่างหุ้นในธุรกิจที่เลือกลงทุน ได้แก่ Amazon ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของโลกและได้ขยายไลน์การลงทุนเข้าสู่ธุรกิจเทคโนโลยีอื่นๆ DSV ผู้ให้บริการขนส่ง Logistic ที่ใช้เทคโนโลยีเชื่อมต่อกับเจ้าของยานพาหนะขนส่งและลูกค้าที่ต้องการกระจายสินค้าที่ตอบรับกับ E-Commerce และหุ้นในกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ที่สามารถปรับตัวตามกระแสโลกที่เปลี่ยนแปลง เช่น Hermes ผู้ผลิตเครื่องหนังชั้นนำระดับโลก เป็นต้น
‘เราเชื่อว่าโอกาสลงทุนในหุ้นคุณภาพที่มีศักยภาพเติบโตภายใต้ธีมลงทุนเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก ผ่านกองทุนเปิดพรินซิเพิล โกลบอล ออพพอร์ทูนิตี้ (PRINCIPAL GOPP) เป็นหนึ่งในกองทุนที่ตอบโจทย์การลงทุนในปัจจุบันและเป็นกองทุนเด่นของทาง บลจ.พรินซิเพิล ที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมให้กับนักลงทุนในระยะยาว” นายจุมพล กล่าว
สำหรับกองทุนเปิดพรินซิเพิล พรินซิเพิล โกลบอล ออพพอร์ทูนิตี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ตัวแทนสนับสนุนการขายและรับซื้อคืน และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พรินซิเพิล จำกัด โทร. 02 686 9595 หรือ www.principal.th หรือ Principal TH Mobile App
|