“CPN ในฐานะผู้ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์และงานระบบ และจะเป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ของทรัพย์สินที่จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมทั้ง 2 โครงการ ได้ให้การสนับสนุนกองทรัสต์ โดยปรับลดราคาทรัพย์สินที่ CPNREIT จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมครั้งนี้ จากเดิมที่จะเข้าลงทุนที่มูลค่าไม่เกิน 5,866 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าการลงทุนสูงสุดที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยทรัสต์ครั้งที่ 1/2562 ปรับลดลงเป็นมูลค่าการลงทุนไม่เกิน 5,672 ล้านบาท และในขณะเดียวกันเพื่อให้เกิดความมั่นใจแก่ผู้ลงทุนมากยิ่งขึ้น CPN จะให้การสนับสนุนโดยตกลงที่จะลดค่าตอบแทนผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่วันที่ CPNREIT ลงทุนในทรัพย์สินที่จะลงทุนเพิ่มเติม จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 (ระยะเวลาให้ความช่วยเหลือ) ในกรณีที่กำไรสุทธิก่อนหักค่าตอบแทนของผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ (EBITDA Before Deducting Property Management Fees) ของทรัพย์สินที่จะเข้าลงทุนเพิ่มเติม ที่กองทรัสต์ได้รับตามระยะเวลาให้ความช่วยเหลือนั้น ต่ำกว่าที่ประมาณการกำไรสุทธิก่อนหักค่าตอบแทนผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ซึ่งคิดตามสัดส่วนของระยะเวลาให้ความช่วยเหลือเทียบกับระยะเวลาประมาณการ CPN ยินดีลดค่าตอบแทนที่จะได้รับในฐานะผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ เป็นจำนวนเงินเท่ากับผลลัพธ์ที่คำนวณได้ แต่ไม่เกินจำนวนสูงสุดซึ่งคำนวณจากจำนวนเงิน 40 ล้านบาท คิดตามสัดส่วนระยะเวลาให้ความช่วยเหลือเทียบกับระยะเวลาประมาณการ” นางสาวพิรินี กล่าว
นางสาววีณา เลิศนิมิตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานวาณิชธนกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า ปัจจุบันแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหน่วยทรัสต์ / ร่างหนังสือชี้ชวน อยู่ระหว่างการพิจารณาการมีผลใช้บังคับของสำนักงาน ก.ล.ต. โดยภายหลังได้รับการพิจารณาให้มีผลใช้บังคับแล้ว จะดำเนินการเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติม โดยจะเสนอขายแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมของ CPNREIT และ GLANDRT ที่มีรายชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือหน่วยทรัสต์ ณ วันปิดสมุดทะเบียนเพื่อกำหนดรายชื่อผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมที่มีสิทธิจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มเติม (Book Close) เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 โดยสามารถตรวจสอบสิทธิจองซื้อหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมได้ที่ www.cpnreit.com และหากมีหน่วยทรัสต์เพิ่มเติมที่เหลือจากการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิมของ CPNREIT และ GLANDRT จะนำมาเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปต่อไป
ทั้งนี้ภายหลัง CPNREIT เข้าลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมครั้งนี้ จะยังคงเป็นกองทรัสต์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทั้งในแง่ของมูลค่าทรัพย์สินและมูลค่าตามราคาตลาดของกองทรัสต์ (Market Capitalization) และช่วยเพิ่มศักยภาพและโอกาสได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ CPNREIT ยังเป็นกองทรัสต์ที่มีความมั่นคง โดยได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก TRIS ที่ระดับ AA (เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2563)
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า หลังจากเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจในวงกว้าง อย่างไรก็ตาม ตามผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2563 ได้สะท้อนให้เห็นภาพรวมธุรกิจศูนย์การค้าเริ่มเข้าสู่ช่วงฟื้นตัว โดยภายหลังการกลับมาเปิดให้บริการศูนย์การค้าอีกครั้งในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2563 พบว่าผลการดำเนินงานของทรัพย์สินที่จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมทั้ง 2 โครงการในไตรมาส 3 ปี 2563 ฟื้นตัวจากไตรมาส 2 ปี 2563 ค่อนข้างมาก นอกจากนี้ ทรัพย์สินที่จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมทั้ง 2 โครงการ จะบริหารโดย CPN ซึ่งเป็นผู้มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการศูนย์การค้าในประเทศไทย มานานเกือบ 40 ปี โดยสามารถบริหารอสังหาริมทรัพย์โครงการศูนย์การค้าผ่านวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ได้ตลอดมา นอกจากนี้ กองทรัสต์มีนโยบายเข้าลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงสิทธิการเช่าช่วงอสังหาริมทรัพย์คุณภาพสูง ซึ่งจะทำให้ CPNREIT เติบโตได้อย่างต่อเนื่องผ่านการลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติม จึงเชื่อมั่นว่าจะเป็นหนึ่งในการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีและสม่ำเสมอในระยะยาว
|