เทรนด์เวิร์กสเปซในยุคโควิด-19
อย่างไรก็ดี การเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นเวลาร่วมหนึ่งปีที่ผ่านมา บ่งชี้ให้เห็นว่าการทำงานจากที่บ้าน (work from home) ไม่ใช่แนวทางการทำงานที่ยั่งยืน พนักงานต่างต้องการเชื่อมโยง ทำงานร่วมกันและสร้างสรรค์ผลงานกับผู้อื่น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับบริษัทในการเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว WeWork มองเห็นเทรนด์สำคัญที่เกิดขึ้นดังนี้
1. บางธุรกิจมีการเติบโตสูง: บางธุรกิจ เช่น การศึกษาและเภสัชกรรม ต่างมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงโควิด-19 ทำให้บริษัทต้องขยายพื้นที่ทำงานเพื่อรองรับกำลังคนที่มากขึ้น อาทิ โกลบิช อคาเดเมีย (Globish Academia) แพลตฟอร์มเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์สัญชาติไทยที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ มีการเติบโตขึ้นหลายเท่าในปีที่ผ่านมา ซึ่งหมายถึงความต้องการในการขยายพื้นที่ทำงานอย่างรวดเร็ว WeWork สปริง ทาวเวอร์ ได้ตอบโจทย์ความต้องการนี้และช่วยให้โกลบิช อคาเดเมีย สามารถขยายพื้นที่ทำงานขนาดครึ่งชั้นได้ในเวลาที่ต้องการ
2. ธุรกิจมีการปรับตัวใหม่: บางธุรกิจได้รับผลกระทบอย่างหนักในช่วงวิกฤตและหันมามุ่งสร้างความมั่นคง รวมถึงปรับลดขนาดของทีมงานและปรับเปลี่ยนพื้นที่การใช้งานตามความเหมาะสม ที่ทำงานที่มีความยืดหยุ่นจึงเป็นปัจจัยสำคัญ และที่ WeWork จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับบริษัทต่างๆ ว่าแม้จะมีการลดขนาดในตอนนี้ ก็ยังสามารถขยายธุรกิจต่อไปได้ในอนาคต
“บริษัทหรือองค์กรต่างๆ ต้องมุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมองการณ์ไกลกว่าการดำเนินงานเพียงแค่ให้ผ่านพ้นการแพร่ระบาดของโควิด-19 ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจในครั้งนี้ทำให้องค์กรต่างๆ กระตือรือร้นกับการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์พื้นที่ทำงาน และการเป็นพันธมิตรกับ WeWork จะช่วยบริษัทในการจัดการต้นทุน ไปจนถึงการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ และการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับพนักงานเพื่อรองรับความต้องการที่เปลี่ยนไป” อลิซาเบธ ลอว์ส ฟูลเลอร์ กล่าวเพิ่มเติม
นอกจากนั้น WeWork เล็งเห็นว่าหลายบริษัทต่างให้ความสำคัญกับการบริหารกระแสเงินสดและความยืดหยุ่น ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้บรรลุประสิทธิภาพในการดำเนินงานตามเป้าหมายได้ ความยืดหยุ่นในเรื่องพื้นที่และเวลาจะเป็นตัวกำหนดกลยุทธ์พื้นที่ทำงานในอนาคต หลายบริษัทต่างตระหนักถึงความต้องการในเรื่องความยืดหยุ่น ปลอดภัยและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน WeWork เล็งเห็นว่าหลายธุรกิจต้องการเปลี่ยนพื้นที่ทำงานใหม่และมองหาพื้นที่ทำงานแบบผสมผสานหรือไฮบริด (hybrid) การมีออฟฟิศและโต๊ะทำงานส่วนตัวจะไม่ใช่คำตอบอีกต่อไป บริษัทที่มองการณ์ไกลจะมีความต้องการความยืดหยุ่นที่มากขึ้นที่สามารถตอบโจทย์ในเรื่องพื้นที่ เวลา และระบบการทำงาน โดยโมเดลพื้นที่ทำงานที่มีสำนักงานใหญ่และสาขาต่างๆ กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ เนื่องจากเป็นการเพิ่มทางเลือกให้พนักงานสามารถเลือกทำงานในสาขาใกล้บ้านอีกด้วย
เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่เปลี่ยนไป WeWork ก้าวขึ้นเป็นผู้นำเทรนด์ด้วยการนำเสนอ 2 บริการใหม่ในปีนี้
1. WeWork All Access: บริการที่ให้สมาชิกสามารถเข้าใช้ WeWork สาขาต่างๆ ได้ทั่วโลกด้วยการจองล่วงหน้า เปิดให้บริการแล้ว การมีสาขาที่หลากหลายของ WeWork ช่วยให้สมาชิกสามารถเลือกเข้าทำงานในสาขาใกล้บ้านได้ โดย WeWork ทั้ง 4 สาขาในประเทศไทยต่างตั้งอยู่ที่อาคารเกรด A ชั้นนำในย่านธุรกิจสำคัญที่สามารถเดินทางได้สะดวกคือ อาคารเอเชีย เซ็นเตอร์ สาทร, อาคาร ทีวัน ทองหล่อ, สปริง ทาวเวอร์ พญาไท และเดอะ ปาร์ค พระราม 4
2. WeWork On Demand: บริการสำหรับบุคคลทั่วไปที่ไม่ใช่สมาชิก โดยให้สิทธิ์ในการจองพื้นที่ทำงานหรือห้องประชุมที่ WeWork เป็นรายชั่วโมงหรือรายวัน โดยจะเปิดให้บริการภายในไตรมาสที่ 1/2564 นี้
|