นายสุรวุฒิ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันธุรกิจรักษาความปลอดภัยมีส่วนสำคัญมากสำหรับองค์กรต่างๆ และยังมีมูลค่าทางธุรกิจที่สูง ซึ่งการที่กลุ่ม LPN มีบริษัทรักษาความปลอดภัยเป็นของตัวเอง นอกจากการดูแลเรื่องต้นทุนได้แล้ว ยังสามารถบริหารจัดการและควบคุมคุณภาพของบุคคลากรที่ปฏิบัติงานด้านความปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมั่นใจว่า LSS จะสามารถเติบโตได้โดยอาศัยจุดแข็งที่มีอยู่ ทั้งของ LPN และ LPP ในการขยายธุรกิจ ทั้งทางด้านความมั่นคงทางการเงิน ความเชี่ยวชาญในธุรกิจ รวมถึงฐานลูกค้าที่มีและพันธมิตรในการทำธุรกิจ
ทั้งนี้ LSS เป็นบริษัทที่ให้บริการรักษาความปลอดภัยแบบบูรณาการระหว่างการใช้บุคคลากรที่มีคุณภาพ และการนำเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพมาใช้ ผ่านการรักษาความปลอดภัยด้านอิเลคโทรนิคและระบบงาน (Electronic Security & System “ESS”) โดยศูนย์ปฏิบัติการระบบรักษาความปลอดภัย หรือ LPP Smart Security Center ที่นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อยกระดับความปลอดภัย มีการติดตั้ง เฝ้าระวัง ควบคุมดูแล ผ่านกล้องวงจรปิด Smart CCTV เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัย ทั้งในส่วนของบุคคลากรและเทคโนโลยีควบคู่กันได้ตลอด 24 ชั่วโมง สามารถลดค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้าได้ ขณะเดียวกันลูกค้าก็ได้งานรักษาความปลอดภัยที่มีคุณภาพดีขึ้น
นอกจากนี้ จุดเด่นอีกประการของ LSS คือ การมีผู้บริหารหญิงผู้มีประสบการณ์ตรงในแวดวงนี้มายาวนาน “นางณิชมน ชาญอุไร” มารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ซึ่งจะทำให้มีมุมมองที่ละเอียดอ่อนยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ยังมีทีมงานเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่มีความเป็นมืออาชีพ ผ่านการฝึกอบรมตามมาตรฐาน พร้อมทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยสำหรับโครงการที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงานและศูนย์การค้า
|