โดยผลผลิตทุเรียนจะออกมากที่สุดระหว่างเดือนเมษายน - พฤษภาคม ซึ่งจากการที่กรมวิชาการเกษตรได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปปฏิบัติงานและขยายเวลาในการปิดตู้ทำให้สามารถตรวจรับรองการส่งออกได้เพิ่มขึ้นโดยในช่วงระว่างวันที่ 20-29 เมษายน 2564 ผลผลิตทุเรียนที่ส่งออกไปจีน มีจำนวนถึง 4,974 ชิปเม้นท์มากกว่าปี 2563 ในช่วงเวลาเดียวกันที่มีการส่งออก 3,298 ชิปเม้นท์ ซึ่งเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 75 ทั้งนี้ราคารับซื้อทุเรียนหมอนทอง ณ วันที่ 30 เม.ย.64 อยู่ที่ 90-100 บาท/กก.
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ตลาดจีนถือเป็นตลาดส่งออกผลไม้ที่สำคัญของไทยโดยอนุญาตให้นำเข้าผลไม้จากประเทศไทยมากกว่าถึง 22 ชนิด สร้างรายได้ให้แก่ประเทศคิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท / ปี ดังนั้นคุณภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราสามารถรักษาตลาดไว้ได้ โดยไทยและจีนมีข้อตกลงเงื่อนไขการนำเข้าและส่งออกผลไม้ที่ต้องปฏิบัติร่วมกันคือผลผลิตจะต้องมาจากสวนที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน GAP และคัดบรรจุในโรงงานผลิตสินค้าพืชที่ได้รับการขึ้นทะเบียนตามมาตรฐาน GMP โดยกรมวิชาการเกษตรได้จัดส่งข้อมูลทะเบียนสวนทุเรียนที่ได้รับการรับรองทั้งหมดส่งให้จีนประกาศในเว็บไซต์ของจีนแล้ว รวมจำนวนทั้งสิ้น 38,767 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2563 ที่มีจำนวน 30,076 ราย ส่วนโรงงานคัดบรรจุ GMP ที่ได้แลกเปลี่ยนทะเบียนและประกาศรายชื่อในเว็บไซต์ของจีนแล้วมีจำนวนทั้งสิ้น 1,587 โรงงาน
“ทั้งนี้ที่ผ่านมาจีนได้เปิดด่านอนุญาตให้นำเข้าผลไม้จากไทยได้จำนวน 3 ด่านคือ ด่านโม่หัน ด่าน โหย่วอี้กวน และด่านรถไฟผิงเสียง แต่ในขณะนี้กรมวิชาการเกษตรได้รับแจ้งข่าวดีว่าสำนักงานศุลกากรของจีน (GACC) ได้อนุญาตให้นำเข้าผลไม้สดของไทยที่ด่านตงซิงได้แล้วโดยมีผลตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน 2564 เป็นต้นไป ซึ่งถือเป็นข่าวดีที่ไทยได้รอคอยมาเป็นระยะเวลา 1 ปี ภายหลังจากที่กรมวิชาการเกษตรและสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ ได้ประสบความสำเร็จในการเจรจา "ร่างพิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดในการกักกันโรคและตรวจสอบสำหรับการส่งออกและนำเข้าผลไม้ผ่านประเทศที่สามระหว่างไทยและจีน" กับสำนักงานศุลกากรของจีนเมื่อเดือนเมษายน 2563 นำไปสู่การปลดล็อคเส้นทางการขนส่งผลไม้ไปจีนและไทยได้ด่านนำเข้าและส่งออกผลไม้ไปจีนเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้ส่งออกผลไม้ไปจีนช่วยแก้ปัญหารถติดสะสมบริเวณหน้าด่านโหย่วอี้กวน โดยเฉพาะในฤดูกาลส่งออกทุเรียนในขณะนี้” อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว
|