“เดอะ ปาร์ค และวัน แบงค็อก คือสองโครงการมิกซ์ยูสที่สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของเราในการสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับพื้นที่ศูนย์กลางธุรกิจใจกลางกรุงเทพฯย่านพระราม 4 ส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน ควบคู่ไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในชุมชนเมือง โดย เดอะ ปาร์ค เป็นโครงการมิกซ์ยูสที่มีออฟฟิศและรีเทลอัจฉริยะภายใต้แนวคิด ‘Life Well Balanced’ ที่เสร็จสมบูรณ์แล้วและเป็นแบบอย่างของการสร้างพื้นที่สีเขียวในโครงการของภาคเอกชนเพื่อสาธารณะ โดยมีการปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่เป็นแนวตลอดหน้าอาคารที่อยู่บนพื้นที่ของโครงการเพื่อสร้างความร่มรื่นให้ถนนและทางเดิน รวมถึงนำพื้นที่ตลอดแนวด้านหน้าโครงการมาเป็นส่วนต่อขยายทางเดินเท้าที่มีอยู่ให้กว้างขวางภายใต้ภูมิทัศน์ที่ดีขึ้น และเป็นประโยชน์ต่อผู้คนโดยรอบที่สัญจรไปมา ส่วน วัน แบงค็อก โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ครบวงจรและใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มุ่งเน้นให้ความสำคัญใน 4 ด้าน คือ การคำนึงถึงคนเป็นศูนย์กลาง เพื่อคุณภาพชีวิต ความสะดวกสบาย และคุณประโยชน์ของผู้ใช้งาน ด้วยพื้นที่สาธารณะขนาดใหญ่ ทางเดินเท้าที่สะดวกเชื่อมโยงกันตลอดโครงการ ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ด้วยพื้นที่เปิดโล่งและพื้นที่สีเขียวมากถึง 50 ไร่จากพื้นที่ทั้งหมด104 ไร่ของโครงการ การออกแบบที่มุ่งสู่การได้รับรองมาตรฐาน LEED และ WELL การใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะในระบบบริหารจัดการต่าง ๆ และการเดินทางเข้าออกโครงการที่สะดวกสบายด้วยการเชื่อมต่อกับระบบรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที ทางด่วน และถนนสายหลักทั้งถนนวิทยุ และถนนพระราม 4” คุณวรวรรตกล่าวเสริม
นอกจากนั้น โครงการอื่น ๆ ที่พัฒนาหรือดูแล โดยเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) และกลุ่มบริษัทในเครือ อย่างปาร์คเวนเจอร์ อีโคเพล็กซ์ สามย่านมิตรทาวน์ และเอฟวายไอ เซ็นเตอร์ ต่างก็ให้ความสำคัญกับการพัฒนาพื้นที่สีเขียวเพื่อสาธารณะใจกลางเมือง ด้วยหลักการมุ่งเน้นการพัฒนาพื้นที่ของเอกชนเพื่อเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม ทั้งการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้เป็นสาธารณะประโยชน์อย่างการปลูกต้นไม้ตลอดแนวริมถนน จัดสรรพื้นที่โล่งกว้างหน้าอาคารให้ผู้คนทั่วไปสามารถใช้ประโยชน์ได้ และเชื่อมขยายพื้นที่ทางเดินเท้าข้างถนนกับพื้นที่ของอาคารให้กว้างขวางและสะดวกต่อการเดินเท้ามากยิ่งขึ้น
“สำหรับนิยามของเมืองอนาคตในอุดมคติ คำ ๆ แรกที่ผมนึกถึงคือ “Glocal” ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรม วิถีชีวิต และภูมิปัญญาของท้องถิ่น (Local) และแนวคิด มาตรฐาน นวัตกรรม และเทคโนโลยีล้ำสมัยซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับโลก (Global) เข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว” คุณวรวรรตกล่าวทิ้งท้าย
|