เทรนด์ Work From Home ยาวขึ้น ส่งผลพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน
นายณพงศ์ ปริพนธ์พจนพิสุทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอเชี่ยน พรอพเพอร์ตี้ จำกัด บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์คุณภาพครบวงจร เปิดเผย นับตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ปลายปี 2563 จนถึงปัจจุบันเทรนด์การทำงานจากที่บ้านที่ยาวนานขึ้น ส่งผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปและเริ่มมองหาชีวิตที่ยืดหยุ่นได้และมีพื้นที่พักผ่อนมากขึ้น รวมถึงการจำกัดพื้นที่และการเคลื่อนย้ายจากการประกาศล็อกดาวน์เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ในประเทศ สะท้อนทิศทางที่สอดรับสภาพความเป็นจริงของการขายและการตลาดฮอลิเดย์โฮมในพื้นที่พัทยา โดยเฉพาะโครงการของบริษัท “โอเชี่ยน พอร์โตฟิโน่ จอมเทียน-พัทยา” ได้รับความสนใจจากการซื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ในช่วงโควิด-19 ที่กำลังซื้อส่วนใหญ่มาจากในประเทศ ที่จะมองว่าพัทยายังคงเป็นแหล่งท่องเที่ยวและการพักผ่อนตากอากาศบ้านหลังที่ 2 บรรยากาศโดยรวมเอื้อต่อการท่องเที่ยว มีกิจกรรมเชิงไลฟ์สไตล์ให้ทุกคนในครอบครัวได้ทำร่วมกัน อีกทั้งใช้เวลาในการเดินทางจากกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียงเพียง 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น
“จากแนวโน้มการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ หรือ New Normal ผู้ประกอบการอสังหาฯกำลังเผชิญกับรสนิยมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปสำหรับชีวิตที่ยืดหยุ่นได้และมีพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ ทำให้เริ่มมีการมองหาที่พักระยะยาว หรือบ้านหลังที่ 2 สำหรับพักผ่อนและทำงานไปพร้อมๆ กัน” นายณพงศ์กล่าว
ข้อมูลที่น่าสนใจอีกด้านของงานวิจัยคอลลิเออร์ส ประเทศไทย ในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 ไม่พบว่ามีโครงการคอนโดมิเนียมโครงการใหม่เปิดขายในพื้นที่พัทยา โครงการส่วนใหญ่ชะลอเปิดตัวออกไป บางโครงการก็อาจมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการพัฒนาใหม่อันเนื่องจากผลกระทบทางเศรษฐกิจ ทำให้จำนวนหน่วยที่เปิดขายอยู่ในตลาดปัจจุบันไม่ล้นเกินกว่าความต้องการซื้อที่แท้จริง
คอนโดห้องใหญ่ ตอบโจทย์บ้านหลังใหม่ของครอบครัว
นอกจากซัพพลายที่มีอยู่ไม่มากจะเป็นโอกาสสร้างยอดขายให้กับกำลังซื้อคนไทยที่มองหาบ้านหลังที่สองในแหล่งท่องเที่ยวแล้ว “ขนาด” พื้นที่ของคอนโดมิเนียม ก็มีผลต่อการตัดสินใจซื้อด้วย จากข้อมูลงานวิจัย คอลลิเออร์ส ประเทศไทย พบว่า ห้องชุดขนาดมากกว่า 100 ตารางเมตรขึ้นไปเหลืออุปทานในตลาดเพียงแค่ 1% ของอุปทานที่อยู่ระหว่างการขายในตลาด หรือประมาณ 610 ยูนิตเท่านั้น เพราะจำนวนยูนิตเปิดขายใหม่ในโครงการต่าง ๆ ส่วนใหญ่พัฒนาเป็นห้องขนาดเล็ก
“กำลังซื้อระดับบนที่มีความพร้อมยังคงมองหาคอนโดมิเนียมหรูที่สามารถมองเห็นวิวทะเลที่มีห้องขนาดใหญ่ สำหรับเป็นบ้านพักตากอากาศหลังที่สอง หรือต้องการเปลี่ยนบรรยายกาศในการทำงานที่บ้านเป็นบรรยายกาศที่ผ่อนคลายมากขึ้น หากห้องมีขนาดเล็กมากเกินไป อาจไม่ตอบโจทย์การมองหาเพื่อเป็นบ้านหลังที่สองมากนัก เพราะส่วนใหญ่คนซื้อจะมองถึงประโยชน์การใช้พื้นที่ของสมาชิก
ทุกคนในครอบครัวได้มากกว่า” นายณพงศ์กล่าว
ในส่วนของ “โอเชี่ยน พอร์โตฟิโน่ จอมเทียน -พัทยา” ขนาดห้อง Over-Size Unit 1-2 ห้องนอน พื้นที่กว้าง 80-133 ตารางเมตร ในราคาเริ่มต้นเพียง 6.9 ล้านบาท ที่พัฒนาไว้สำหรับรองรับกลุ่มกำลังซื้อ เพื่อเป็นบ้านหลังที่สองของครอบครัว เป็นการซื้อไว้เพื่อการลงทุน และสร้างมูลค่าการเติบโตของสินทรัพย์ในระยะยาว ด้วยศักยภาพของทำเลที่ตั้งนาจอมเทียนมีแนวโน้มการเติบโตในอนาคตจากการก่อสร้างเส้นทางหลวงพิเศษตัดใหม่เลี่ยงเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 7 ส่วนต่อขยายช่วงพัทยา-มาบตาพุด ที่มีจุดทางลงอยู่บริเวณด้านหน้าโครงการ
เปิด 2 มุมมองเรียลดีมานด์กับชีวิตที่ลงตัว
บ้านหลังที่สองในแหล่งท่องเที่ยวเมืองพัทยาเป็นจุดหมายปลายทางที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และการพักผ่อนให้กับ 2 ครอบครัวของ “โอเชี่ยน พอร์โตฟิโน่ จอมเทียน-พัทยา”
นายวุฒิเวช พิบูลพาณิชย์การ เปิดเผยถึงการตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมพัทยาในช่วงสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ว่า “ผมและครอบครัว ตัดสินใจซื้อห้องของโครงการ “โอเชี่ยน พอร์โตฟิโน่ จอมเทียน-พัทยา” เมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งมีปัจจัยจากภาพรวมของเมืองพัทยาที่ไม่ว่าเดินทางไปกี่ครั้งก็พบว่าเมืองมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทำให้ผมมองว่าพัทยาเป็นเมืองที่มีชีวิต”
ในภาพรวมของโครงการฯ พอเข้ามาอยู่แล้วรู้สึกถึงการได้พักผ่อนอย่างแท้จริง อีกทั้งความปลอดภัย ครอบครัวเราใช้เวลาเดินทางไม่นานเพียงชั่วโมงกว่าจากกรุงเทพฯ และไม่ไกลจากมอเตอร์เวย์ ทำให้สามารถเดินทางมาพักผ่อนที่นี่แทบจะทุกสัปดาห์
ที่สำคัญคือโครงการฯมีกิจกรรมในเชิงไลฟ์สไตล์ ติดทะเล มีท่าเรือ จากวันแรกจนถึงวันนี้ลูกๆ ของผมชื่นชอบบรรยากาศและการล่องเรือเป็นอย่างมาก
“ส่วนตัวแล้ววิวที่มองออกไปเห็นทะเล รวมถึงกิจกรรมที่ทุกคนในครอบครัวร่วมทำด้วยกัน และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในโครงการฯก็มีความสำคัญ โดยมองถึงการเป็นจุดพักผ่อนของครอบครัวมากกว่าการซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า ซึ่งในอนาคตแล้วเชื่อว่ามูลค่าของคอนโดมิเนียมโครงการ “โอเชี่ยน พอร์โตฟิโน่ จอมเทียน-พัทยา” จะเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของมูลค่าสินทรัพย์ที่จะเป็นส่วนที่
ส่งต่อให้ลูกได้ในอนาคต”
ด้าน นายวิรัช เตชะมงคลาภิวัฒน์ กล่าวว่า จำนวนยูนิตในโครงการนี้ที่มีไม่มาก และมีมารีน่าที่ถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของโครงการนี้ทำให้แตกต่างจากโครงการอื่นๆ ทำให้ตัดสินใจซื้อยูนิตแรกไปเมื่อปี 2562 และซื้อเพิ่มอีกยูนิตไปเมื่อเร็ว ๆ นี้
“ผมตัดสินใจซื้อที่นี่ มองเรื่องการซื้อเก็บไว้เป็นสินทรัพย์ระยะยาวและส่งต่อให้ลูกต่อไป จากที่มีห้องอยู่แล้ว ก็ซื้อเพิ่ม นอกจากการมีมารีน่าและสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการแล้ว ที่สำคัญคือ ผมมีเพื่อนอยู่ที่นี่ทำให้มาพักได้บ่อยๆ”
สำหรับโครงการ “โอเชี่ยน พอร์โตฟิโน่ จอมเทียน - พัทยา” คอนโดมิเนียมแบบไฮไรส์ (High Rise) สูง 37 ชั้น จำนวน 268 ยูนิต บนเนื้อที่กว่า 120 ไร่ เน้นการออกแบบโดยมอบความเป็นส่วนตัว และความสบายสูงสุด พร้อมเปิดมุมมอง 180 องศา ของวิวทะเลและท่าจอดเรือยอช์ท ที่สามารถชมวิวทะเลแบบพาโนรามา และสัมผัสบรรยากาศ “มารีน่า ไลฟ์สไตล์” ท่าจอดเรือยอช์ทหรูระดับเวิลด์คลาส แลนด์มาร์กสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองพัทยา หนึ่งเดียวของฮอลิเดย์โฮมเมืองพัทยาที่เติมเต็มการพักผ่อนอย่างเหนือระดับทุกวันพักผ่อนแนวใหม่สำหรับทุกคนในครอบครัว
|