อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า หลังจากที่กรมวิชาการเกษตรได้จัดส่งรายชื่อผู้ผลิตและแปรรูปข้าวไทยจำนวน 46 รายดังกล่าวไปให้จีนพิจารณาอีกครั้งได้ติดตามความก้าวหน้ากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจีนมาโดยตลอด โดยเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมากรมวิชาการเกษตรได้รับแจ้งจากสำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำกรุงปักกิ่ง ว่าหน่วยงาน GACC ของจีนแจ้งขอสุ่มตรวจประเมินผู้ผลิตและแปรรูปข้าวชุดที่ 2 ของไทยจำนวน 5 รายเพื่อเป็นตัวแทนการตรวจประเมินผ่านทางช่องทางวีดิโอคอน เฟอเรนซ์ โดยการสุ่มตรวจจะเน้นมาตรการความปลอดภัยอาหาร ศัตรูพืช และมาตรการป้องกันเชื้อโควิด-19 ตามคู่มือของ FAO และ WHO
“วันนี้เราได้รับแจ้งข่าวดีจากจีนว่า ผลการสุ่มตรวจ 5 ตัวแทนผู้ผลิตและแปรรูปข้าวของไทย ได้ผ่านการพิจารณาจากจีนแล้ว ส่งผลให้ในรอบ 2 นี้มีผู้ผลิตและแปรรูปข้าวที่สามารถส่งออกไปจีนได้รวมทั้งหมด 46 ราย ซึ่งเป็นความพยายามของกรมวิชาการเกษตรที่ได้ติดตามและผลักดันให้มีการขึ้นทะเบียนผู้ผลิตและแปรรูปข้าวเพิ่มเติมมาเป็นระยะเวลากว่า 4 ปีแล้ว โดยขณะนี้จีนขอให้กรมวิชาการเกษตรจัดทำบัญชีรายชื่อผู้ผลิตและแปรรูปข้าวของไทยให้เหลือเพียงบัญชีรายชื่อเดียวโดยนำรายชื่อผู้ผลิตและแปรรูปข้าวที่ผ่านการขึ้นทะเบียนในรอบแรกจำนวน 49 ราย กับชุดที่ 2 จำนวน 46 ราย มาผนวกรวมกัน อย่างไรก็ตาม มีบริษัทผู้ผลิตและแปรรูปข้าวในชุดแรกจำนวน 2 รายได้ย้ายที่ตั้งโรงงานทำให้พ้นสภาพการขึ้นทะเบียนจึงเหลือบัญชีรายชื่อผู้ผลิตและแปรรูปข้าวที่ผ่านการขึ้นทะเบียนส่งออกข้าวไปจีนทั้ง 2 ชุดดังกล่าวรวมจำนวนทั้งสิ้น 93 ราย” อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว
นอกจากนี้ กรมวิชาการเกษตรขอย้ำเตือนผู้ส่งออกด้วยว่าด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ โควิด-19 ในประเทศไทยและทั่วโลกในขณะนี้จีนจึงให้ความสำคัญการตรวจสินค้านำเข้าอย่างเข้มข้นทั้งเรื่อง การปฏิบัติตามพิธีสารส่งออกข้าวไทยไปจีน ศัตรูพืช ความปลอดภัยทางด้านอาหาร และการป้องกันการปนปื้อนเชื้อโควิด-19 จึงขอให้ผู้ส่งออกของไทยให้ความสำคัญต่อเรื่องดังกล่าวอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาระงับการนำเข้าด้วย โดยในช่วงเดือนมกราคม -ตุลาคม 2564 ไทยส่งออกข้าวไปจีนปริมาณรวม 430,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าเกือบ 7,000 ล้านบาท โดยประเทศหลักที่จีนนำเข้าข้าวคืออินเดีย เวียดนาม และไทย
|