“ร้านชุมชนที่เป็นพาร์ทเนอร์กับเรนนี่ ทำหน้าที่คือขายของเพียงอย่างเดียว พร้อมโอนเงินรายรับที่ได้เป็นรายวันเข้าบริษัท ทางเรนนี่จะมีระบบหลังบ้านสรุปผลกำไรแสดงให้เห็นเป็นรายวัน และโอนกำไรการขายทั้งหมดให้แก่ร้านค้าชุมชนพาร์ทเนอร์ทุกเดือน ดังนั้นข้อดีของการเปลี่ยนโฉมร้านชุมชนมาเป็น Renny Express คือ สินค้าในร้านหลากหลายครบครันในต้นทุนที่ถูกลง ได้ผลตอบแทนที่มากขึ้น ไม่ต้องกังวลกับการซื้อสินค้าหรือเติมสินค้าเอง มีระบบซอฟต์แวร์จัดการบริหารร้านอย่างเป็นระบบ รับรู้รายได้รายวัน จ่ายค่าประกันสินค้าเพียงครั้งเดียวเรนนี่รับหน้าที่ดูแลเติมสินค้าและส่งสินค้าให้ฟรีตลอดอายุสัญญา แถมจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายให้ทุกเดือน กำไรที่ได้เฉลี่ยขั้นต่ำอยู่ที่ 100,000 บาทต่อเดือน
ผู้ที่สนใจเข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับ Renny Express คุณสมบัติหลักมี 2 ข้อ คือ 1. เป็นเจ้าของร้าน 2. มีความพร้อมในการปรับปรุงพื้นที่ เราจะมีทีมงานลงพื้นที่ตรวจสอบ และคอยเป็นพี่เลี้ยงเทรนเรื่องการใช้งาน ซึ่งโปรแกรมทั้งหมดในร้านเป็นโปรแกรมสำเร็จรูปที่สะดวกและใช้งานง่าย สำหรับเรื่องเงินทุนในการตกแต่งร้านนั้น ทางเรนนี่ซัพพอทในเรื่องแหล่งเงินทุนสำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของร้านอีกด้วย
ร้านค้าชุมชนในประเทศไทยมีจำนวนมากกว่า 300,000 ร้าน เรนนี่มองว่าอยากจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยยกระดับร้านค้าชุมชนเหล่านี้ให้มีความสวยงามน่าเข้าไปใช้บริการ การจัดร้านสะอาด มีระบบช่วยจัดการเรื่องยอดขาย กับบริการที่ครบครัน ก็จะทำให้สามารถแข่งขัน และดำเนินธุรกิจไปได้อย่างมั่นคงยาวนาน แฟรนไชส์ Renny Express เพิ่งเปิดตัวเมื่อปี 2564 เบื้องต้นคือต้องลงไปพูดคุยปรับทัศนคติ ทำความเข้าใจกับร้านค้าต่าง ๆในฐานของเราให้เปิดใจรับ จึงมีร้าน Renny Express เปิดให้บริการ 10 แห่งในกรุงเทพ สำหรับปี 2565 ตั้งเป้าจะขยายจุดบริการ Renny Express ประมาณ 5,000 ร้านค้า” คุณอาลีกล่าวทิ้งท้าย
|