นายสมัชชา พรหมศิริ Chief of Staff ฝ่ายกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การระบาดของโควิด-19 ไม่ได้ส่งผลกระทบเพียงด้านสุขภาพของประชาชนและเศรษฐกิจโลกเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อสุขภาวะทางจิต (Mental Wellbeing) ตลอดจนพัฒนาการของเด็กและเยาวชนในทุกด้าน และเป็นเรื่องที่สังคมต้องร่วมกันตระหนักรู้ เพราะเด็กและเยาวชนเหล่านี้จะเติบโตและกลายเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนโลกของเราในอนาคต ทั้งนี้จากรายงานล่าสุดขององค์การยูนิเซฟระบุว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเด็กอย่างรุนแรงและกลายเป็นวิกฤตที่หนักหนาสาหัสที่สุดในประวัติศาสตร์ 75 ปี และกลายเป็นอุปสรรคฉุดรั้งความก้าวหน้าในหลายด้านที่สะสมมาหลายศตวรรษ ทั้งด้านความยากจน สุขภาพ การเข้าถึงการศึกษา โภชนาการ การคุ้มครองเด็ก และสุขภาพจิตของเด็ก ดังนั้นตลอดช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา แสนสิริจึงได้ให้ความสำคัญกับการดูและเยาวชนมากเป็นพิเศษผ่านโครงการแสนสิริ อะคาเดมี่ ที่แสนสิริก่อตั้งขึ้นมาในปี 2549 ด้วยวัตถุประสงค์ในการมีส่วนร่วมพัฒนาสังคม มุ่งเน้นการสร้างคน ส่งเสริมคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชนอย่างยั่งยืน และเท่าเทียมกัน ในด้านกีฬาและสุขภาพ โดยเฉพาะการส่งเสริมการเรียนรู้พื้นฐานด้านกีฬาฟุตบอลอย่างถูกต้องโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งปัจจุบันมีเยาวชนผ่านการบ่มเพาะถึง 8,000 คน มีสนามฝึกซ้อมทั้งสิ้น 5 สนาม ได้แก่ สนามฟุตบอลปัญญาซอคเกอร์ปาร์ค สนามฟุตบอลอาม่าซ็อคเกอร์คลับ สนามฟุตบอลศูนย์ฝึกกีฬา อ่อนนุช สนามฟุตบอล The Corner FC และสนามหน้าที่ว่าการอำเภอกระทู้ จ.ภูเก็ต
“เรามองว่าโควิดยังคงไม่จางหายไป จึงได้มองหาแนวทางในการส่งเสริมพัฒนาการของเด็กและเยาวชนเพิ่มขึ้น นอกเหนือจากการฝึกสอนในรูปแบบปกติที่เน้นเรื่องทักษะของฟุตบอล โดยเมื่อต้น ปี 2564 ได้มีการจัดทำโครงการเพื่อดูแลสุขภาวะทางจิต (Mental Wellbeing) อย่างเข้มข้น โดยได้เชิญนักจิตวิทยาและนักโภชนาการมาให้ความรู้และส่งเสริมพัฒนาการให้กับเยาวชน รวมถึงสร้างความรู้ความเข้าใจของผู้ปกครองในการปรับตัวต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยในปีหน้า (2565) ทางโครงการได้ขยายการให้ความรู้เหล่านี้ให้ครอบคลุมแบบ 360 องศา และคาดหวังว่าพันธมิตรในด้านต่างๆ ที่มีความสนใจในเรื่อง Well-being ของเด็กเข้ามาร่วมผลักดันโครงการให้ประสบความสำเร็จ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาศักยภาพเยาวชนไทยอย่างจริงจัง” นายสมัชชา กล่าว
ด้าน โค้ชรุ่ง - ใกล้รุ่ง ตรีจักรสังข์ ผู้ฝึกสอนจาก แสนสิริ อะคาเดมี่ อดีตนักกีฬาฟุตบอลทีมชาติไทยและอดีตผู้ช่วยผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับการฝึกซ้อมเด็กๆ และเยาวชนของแสนสิริ อะคาเดมี่ ได้มีการพัฒนาและเสริมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เราพบว่าเยาวชนไทยมีศักยภาพในการเล่นกีฬาฟุตบอลทัดเทียมกับชาติอื่น จึงจำเป็นจะต้องปูทักษะพื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น ฉะนั้นการฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่องจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก อย่างไรก็ตามจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงเดือนมษายน 2564 เริ่มรุนแรงขึ้น แสนสิริ อะคาเดมี่ จึงได้ปรับรูปแบบการฝึกซ้อมเข้าสู่โหมดออนไลน์ เนื่องจากต้องเพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัยและเว้นระยะห่างทางสังคม โดยเน้นให้เด็กและเยาวชนได้ฝึกทักษะที่สามารถฝึกเองที่บ้านได้ ทั้งแบบเรียลไทม์ และผ่านการส่งคลิปวีดีโอจากโค้ชให้แก่เด็กๆ ใช้ในการฝึก และอัดคลิปในการฝึกส่งมายังโค้ช เพื่อให้เกิดการพัฒนาทักษะที่ต่อเนื่อง ซึ่งทางโครงการคาดว่าภายในต้นปีหน้า จะกลับมาเปิดทำการฝึกในรูปแบบปกติได้ เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้กลับมาฝึกซ้อมในสนามจริงอีกครั้ง”
|