อีกงานหนึ่งที่ ศ.นพ.อวย ทุ่มเทอย่างหนัก คือการพัฒนาความรู้ด้านแพทย์แผนไทยประยุกต์ ด้วยการนำความรู้ทางแพทย์แผนปัจจุบันมาผสมผสานกับแพทย์แผนไทย เพราะต้องการสืบสาน ภูมิปัญญาดั้งเดิมที่บรรพบุรุษรังสรรค์ขึ้นให้คงอยู่ต่อไปความสนใจเรื่องแพทย์แผนไทยของท่านเริ่มมา
ตั้งแต่วัยเยาว์ เพราะครอบครัวรักษาด้วยวิธีนี้มาตลอด เมื่อเป็นแพทย์และได้ทุนไปศึกษาต่อที่เยอรมนี ท่านยังเป็นคนไทยคนแรกที่ทำรายงานวิจัยเรื่องใบเมี่ยง พร้อมถ่ายทอดสรรพคุณของสมุนไพรไทย ให้เพื่อนแพทย์ชาวต่างชาติฟัง พอกลับมาถึงประเทศไทย ท่านก็ไปร่วมงานกับกองทัพเรือ เพื่อหาสมุนไพรรักษาโรคมาลาเรียที่กำลังระบาดหนักในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนจะกลับมาประจำอยู่ที่ คณะแพทยศาสตร์และศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ พร้อมกับผลักดันให้อาจารย์ในคณะ ทำวิจัยเรื่องสมุนไพรออกมามากมาย
จนกระทั่งอายุ 72 ปี ด้วยความที่เห็นว่า ปัจจุบันการแพทย์ไทยได้เสื่อมโทรมลงมาก หมอแผนโบราณ ที่ดีมีแต่จะหมดไป หมอที่เกิดขึ้นใหม่ก็หาคนเก่งได้ยาก ถ้าปล่อยเช่นนี้ ไม่ช้าการแพทย์ไทยเดิมซึ่งเป็นสมบัติ อย่างหนึ่งของชาติก็จะสิ้นสูญไป ท่านจึงตัดสินใจทุ่มเทเวลาที่เหลือในชีวิตเพื่องานนี้เต็มตัว ด้วยการตั้งมูลนิธิ ฟื้นฟูส่งเสริมการแพทย์ไทยเดิม เมื่อ พ.ศ. 2523 โดยครั้งนั้นท่านต้องต่อสู้กับแรงเสียดทานอย่างหนัก เพราะคนไทยจำนวนมาก แม้กระทั่งแพทย์ด้วยกันเอง ก็ยังมองว่าแพทย์แผนไทยเป็นเรื่องล้าหลัง และไม่น่าเชื่อถือ จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า ท่านกำลังจะผลิตแพทย์เถื่อนขึ้นมา แต่ ศ.นพ.อวย ก็ไม่เคยหวั่นไหว ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนเรื่องนี้ต่อไป ด้วยการชักชวนลูกศิษย์ลูกหาจากคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล และสถาบันต่างๆ มาช่วยกันบุกเบิกและวางหลักสูตรแพทย์แผนไทย ประยุกต์ จนเกิดเป็นโรงเรียนอายุรเวทวิทยาลัย (ชีวกโกมารภัจจ์) ตลอดจนพยายามหาทางช่วยให้นักศึกษา ที่จบออกมาได้รับการรับรองจากภาครัฐ เพื่อจะได้เป็นกำลังหลักในการสร้างระบบสุขภาพที่ยั่งยืนแก่ประเทศ
แม้สุดท้าย ศ.นพ.อวย ได้จากไปก่อนที่ความฝันจะลุล่วง เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2533 แต่เชื้อไฟที่ได้ทิ้งไว้ก็ไม่เคยมอดดับไปไหน และเป็นแรงผลักดันให้ลูกศิษย์ช่วยกันสานต่อ จนสุดท้ายศาสตร์ แขนงนี้ ก็ได้รับการยอมรับ และเผยแพร่ไปยังวงกว้าง อย่างโรงเรียนอายุรเวทที่ท่านก่อตั้งขึ้น ก็เติบใหญ่กลายเป็นสถานการแพทย์แผนไทยประยุกต์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล รวมทั้งเกิดการเรียนการสอนเรื่องแพทย์แผนไทยประยุกต์ในสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ นับสิบแห่ง ผลิตบัณฑิตใหม่ปีละ 500 กว่าคน รวมทั้งมีบุคลากรที่ทำงานด้านนี้กระจายไปตามโรงเรียน โรงพยาบาล หน่วยงานภาครัฐ คลินิกเอกชน และอื่นๆ ไม่ต่ำกว่า 5,000 ชีวิต ตลอดจนเกิดการต่อยอดความรู้
ทั้งงานวิจัย กระบวนการรักษาโรคใหม่ๆ จนเป็นที่ยอมรับในระดับโลก โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาด ของไวรัสโคโรนา 2019สมุนไพรไทยยังได้รับการพิสูจน์ว่า สามารถช่วยบรรเทาอาการป่วยได้
และทั้งหมดนี้คือ เสี้ยวหนึ่งของผลงานที่ครูแพทย์นักบุกเบิกอย่าง ศ.นพ.อวย ได้รังสรรค์ขึ้น จนกระทั่งลมหายใจสุดท้ายด้วยความหวังสูงสุดที่อยากจะยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดีขึ้น
ร่วมบริจาคให้กองทุนพัฒนาแพทยศาสตร์ เลขที่บัญชี 016-446869-5 ธนาคารไทยพาณิชย์
หรือ https://bit.ly/33z4tnL สอบถามรายละเอียด โทร. 02 414 1775
รับชมคลิป “ครูในความทรงจำ” อาจารย์อวย เกตุสิงห์ ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=KUus2UlZ_yA
|