|
|
“เรติเน่” ขานรับเทรนด์สุขภาพดวงตา มาแรงรับปี 65
ต่อยอดธุรกิจ ขยายปีกสู่ร้านขายยาชั้นนำ |
|
|
|
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดวงตาเรติเน่ (RATINE) โดย บริษัท เหนือน่านฟ้า 159 จำกัด ขานรับเทรนด์สุขภาพ และสังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ ขยายปีกจากช่องทางการจัดจำหน่ายออนไลน์ และร้านค้ามาร์เก็ตเพลสชั้นนำ เดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ยกระดับสู่ตลาดพรีเมี่ยมคุณภาพสูง ดึงร้านขายยาชื่อดังที่คนไทยไว้วางใจ ร่วมเป็นพันธมิตรในการจัดจำหน่าย หวังสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดวงตา มั่นใจรายได้เติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจ
|
|
|
|
นางสาวศิริลัคณา เอียดวิจิตร์ ที่ปรึกษาด้านการตลาดและการสร้างแบรนด์ เผยว่า “จากปัจจัยการระบาดของโควิด19 ทำให้คนไทยให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มพนักงานออฟฟิศ ที่ต้อง Work From Home และนักเรียนที่ต้องเรียนOnline อยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน ที่ใช้สายตาค่อนข้างหนัก รวมถึงกลุ่มผู้สูงอายุ ที่นิยมท่องโลกโซเชียลมากยิ่งขึ้น ดังนั้นฟีดแบ็คหลังการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดวงตาเรติเน่ ในปีที่ผ่านมาค่อนข้างได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี ทั้งในส่วนของช่องทางออนไลน์ต่างๆ ของ Ratine Thailand อาทิ เฟซบุ๊ค, ไลน์, เว็บไซต์ และช่องทางมาร์เก็ตเพลสชั้นนำ อาทิ Shopee, Lazada, JD Central, Shopat24 , MV Mall, Wellness, Konvy, RS Mall”
|
|
|
|
และเพื่อเป็นการขานรับเทรนด์สุขภาพดวงตาที่มาแรงรับปี 2565 แบรนด์เรติเน่ ได้เดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค เพื่อยกระดับสู่ตลาดพรีเมี่ยมที่คำนึงถึงคุณภาพ โดยทีมนักวิจัย พัฒนาผลิตภัณฑ์ระดับหัวกะทิ ขยายปีกสู่ร้านขายยาชั้นนำของประเทศ
|
|
|
|
“จุดแข็งที่ทำให้แบรนด์เรติเน่ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคคนไทยทุกกลุ่มวัย ไม่ว่าจะเป็นสารสกัดลูทีน ซีแซนทีน บิลเบอร์รี่ จากประเทศสหรัฐอเมริกา กระบวนการผลิตที่ได้โรงงานมหาชนชั้นนำของประเทศ ซึ่งมีทีมวิจัย พัฒนาผลิตภัณฑ์ ระดับหัวกะทิดีกรีด็อกเตอร์ มาเป็นผู้ควบคุมมาตรฐานในทุกขั้นตอน ทำให้ร้านขายยาชื่อดังที่คนไทยไว้วางใจ ให้ความสนใจในการเข้าร่วมมาเป็นพันธมิตรในการจัดจำหน่ายมากมาย โดยประเดิม 5 ร้านแรกในเดือนมกราคมนี้ ได้แก่ ร้าน Pharmax สาขาประดิษฐ์มนูธรรม, ร้าน vitamin club สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าว, ร้าน i Care สาขามัทนาเภสัช สี่แยกทศกัณฑ์, ร้าน i Care สาขาตลาดถนอมมิตร, ร้าน Super Drug สาขาเทพเจริญ และเร็วๆ นี้จะกระจายสู่ร้านขายยาชั้นนำอีกมากมาย ซึ่งการจัดจำหน่ายในร้านขายยา นอกจากจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการซื้อผลิตภัณฑ์แล้ว ยังมีเภสัชกรผู้มีความรู้ที่พร้อมให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับลูกค้าอีกด้วย”
|
|
|
|
นอกจากนี้ นางสาวศิริลัคณา เอียดวิจิตร์ ที่ปรึกษาด้านการตลาดและการสร้างแบรนด์ มั่นใจอย่างยิ่งว่าการจับมือกับพันธมิตรร้านขายยาชั้นนำของเมืองไทย จะเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้เกิดขึ้นกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของเมืองไทย คาดรายได้เติบโตต่อเนื่องตามเป้า หรือคิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 1% หรือประมาณ 200 ล้านบาท จากมูลค่าตลาดรวมผลิตภัณฑ์สุขภาพที่สูงถึงกว่า 20,000 ล้านบาท
“ในปี 2565 แบรนด์เรติเน่ จะยังคงเดินหน้าขยายตลาดสู่ช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น โมเดิร์นเทรด, คอนวีเนียนสโตร์ โดยยึดแผนการตลาดที่เน้นขับเคลื่อนด้วยการให้ข้อมูลอินไซด์ด้านสุขภาพ และการใส่ใจสุขภาพดวงตา ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันของลูกค้า พร้อมดึงผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางมาให้ความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง ทุ่มงบการตลาด กว่า 20 ล้านบาท ในการทำตลาดแบบผสมผสาน อาทิ มิวสิคมาร์เก็ตติ้ง, สื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์เต็มรูปแบบ พรีเซ็นเตอร์ อินฟูลเอนเซอร์ รวมถึงการกระจายตัวสู่ชุมชน ภูมิภาค ร้านขายยาต่างจังหวัด, การทำ CSR เพื่อช่วยเหลือสังคม และการรณรงค์ให้คนไทยหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลใส่ใจสุขภาพดวงตา ตั้งเป้าครองส่วนแบ่งการตลาด 1% หรือ ประมาณ 200 ล้านบาท จากตลาดรวมของผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีมูลค่าสูงถึงกว่า 20,000 ล้านบาท อีกทั้งยังมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าแบรนด์เรติเน่จะก้าวสู่การเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดวงตาอันดับต้นๆ ในใจของผู้บริโภค”
ติดตามเรื่องราวดีๆ ของ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดวงตาเรติเน่ (RATINE) ได้แล้ววันนี้ที่ร้านขายยาชั้นนำใกล้บ้านคุณ |
|
|
|
|
|
|
|