ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BBIK กล่าวว่า ขณะที่ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปี 2564 ถือเป็นปีแห่งการเติบโตและประสบความสำเร็จด้วยการให้บริการลูกค้ารายใหญ่ไม่ต่ำกว่า 30 ราย โดยได้ขยายฐานลูกค้าไปยังประเทศอินโดนีเซียและสิงคโปร์ ซึ่งรายได้ในส่วนนี้คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10% ของรายได้ในปี 2564 นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับความพึงพอใจจากลูกค้าในการให้บริการอย่างต่อเนื่อง และยังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุนในการนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เมื่อเดือนกันยายน 2564
ขณะที่การขยายบริการใหม่ด้านที่ปรึกษาการวางกลยุทธ์การตลาดครบวงจร (Marketing Transformation & Marketing Strategy) ยังได้รับการติดต่อจากลูกค้าและมีผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งปัจจุบันมีงานที่อยู่ระหว่างดำเนินการและได้รับงานใหม่อย่างต่อเนื่อง ส่วนการดำเนินธุรกิจของบริษัท ออร์บิท ดิจิทัล จำกัด (ORBIT) ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ถือหุ้นผ่านบริษัทย่อย 40% และบริษัทฯ ถือหุ้น 60% เพื่อเติมเต็มนวัตกรรมและศักยภาพด้านดิจิทัลสู่การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ตลอดจนเพิ่มขีดความสามารถขององค์กรด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมสู่การเพิ่มมูลค่าและสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้กับ OR นั้น คาดว่าจะเติบโต ได้ดีในปี 2565
“เรามั่นใจว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2564 จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยคาดว่าจะมีมูลค่างานที่รับรู้รายได้ (แบ็กล็อก) ตามเป้าหมาย ส่งผลให้รายได้รวมทั้งปีที่คาดการณ์อยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท เนื่องจากมีดีมานด์จากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังมีแบ็กล็อกในปี 2565 ที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะช่วยหนุนการเติบโตตามแผนที่วางไว้” นายพชร กล่าว
|