ดร. ไอซ์ ยังเล่าต่ออีกสิ่งที่ตนได้รับจากการเข้าร่วมครั้งนี้ คือ การร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างคนในแวดวงวิทยาศาสตร์ทั่วโลก พัฒนาทักษะการสื่อสารจากมาสเตอร์คลาส นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้เทคนิคการสื่อสารของแต่ละประเทศ รวมถึงได้พบกับอดีตแชมป์ “เฟมแล็บ” ในปีต่างๆ ที่เจริญก้าวหน้าและประสบความสำเร็จในสายงานวิทยาศาสตร์ทำให้เกิดแรงบันดาลใจให้กับตน และที่สำคัญคือการได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้เข้าแข่งขันจากประเทศอื่นๆ ซึ่งเหมือนกับเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ในสายงานวิทยาศาสตร์ซึ่งกันและกัน อย่างตนเองก็ได้มีการพูดคุยกับผู้เข้าแข่งขันประเทศเนเธอร์แลนด์ที่ศึกษาเรื่องไวรัสเดงกีที่เป็นสาเหตุของโรคไข้เลือดออกซึ่งเป็นเรื่องที่ตนสนใจอยู่เช่นกัน นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างเครือข่ายระหว่างนักวิจัยนักวิทยาศาสตร์ในหลายๆ ประเทศ นอกจากนี้หลังจากที่คว้ารางวัลจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตนยังได้รับโอกาสต่างๆ อีกมากมาย ทั้งการเป็นพิธีกรในงานประชุมวิชาการระดับนานาชาติซึ่งจัดโดยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ตลอดจนได้รับเกียรติให้เป็นวิทยากรให้ร่วมแชร์ความรู้และเทคนิคกับการใช้ภาษาอังกฤษและการสื่อสารวิทยาศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยอื่นๆ อีกด้วย
3 ทริค สุดปัง ย่อยเรื่องวิทย์ยากๆ เป็นเรื่องง่ายๆ
ทั้งนี้กว่าจะมาคว้ารางวัลทั้งในและต่างประเทศนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่าย เพราะต้องผ่านการเตรียมตัวและฝึกซ้อมอย่างเข้มข้น ดร.ไอซ์ ยังได้ร่วมแชร์ 3 ทริคสำคัญของการสื่อสารวิทยาศาสตร์อย่างไรที่จะช่วยเปลี่ยนจากเรื่องยากๆ เป็นเรื่องสนุกใน 3 นาที รวมทั้งมัดใจทั้งกรรมการและผู้ฟังให้อยู่หมัด อันได้แก่ 1. เนื้อหาถูกต้องชัดเจน (Correct and Accurate Content) แน่นอนว่าการสื่อสารเรื่องวิทยาศาสตร์นั้นต้องการอาศัยความถูกต้องแม่นยำ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับคนที่ได้รับฟัง 2. สื่อสารเข้าใจง่าย (Easy to follow) เพราะเรื่องของวิทยาศาสตร์และงานวิจัยหลายครั้งเป็นเรื่องที่คนเข้าถึงได้ยาก นักสื่อสารวิทยาศาสตร์ที่ดีควรจะต้องย่อยเนื้อหาให้ผู้ฟังเข้าใจง่าย และ 3. การนำเสนออย่างมีเสน่ห์ และน่าสนใจ (Charisma) ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารในเรื่องใดก็ตาม คนฟังย่อมอยากฟังผู้พูดที่มีแรงดึงดูดให้ชวนน่าหลงใหลและติดตามเนื้อหา ซึ่งเรื่องของการบริหารเสน่ห์นั้นก็ขึ้นอยู่กับเทคนิคและสไตล์ของแต่ละคน อย่างไรก็ตามการเตรียมตัวและฝึกซ้อมมาอย่างดีก็จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ออกมาเป็นธรรมชาติ และมีข้อผิดพลาดน้อยที่สุด
ทางด้าน นางเฮลก้า สเตลมาเกอร์ ผู้อำนวยการ บริติช เคานซิล ประเทศไทย กล่าวว่า เฟมแล็บ เป็นเวทีการแข่งขันสื่อสารวิทยาศาสตร์ถือเริ่มต้นจากเทศกาลเชลต์นัมในสหราชอาณาจักร และบริติช เคานซิล ได้ร่วมเป็นพาร์ทเนอร์มายาวนานกว่า 15 ปี และได้ส่งเสริมการแข่งขันในระดับประเทศกว่า 40 ประเทศ โดยสำหรับในประเทศไทยเองได้ดำเนินการจัดแข่งขัน โครงการ ‘เฟมแล็บ’ อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 เพื่อพัฒนาทักษะการสื่อสารด้านวิทยาศาสตร์ให้มีประสิทธิภาพ และทำให้วิทยาศาสตร์กลายเป็นเรื่องที่ง่ายสำหรับทุกคน นอกจากนี้ ‘เฟมแล็บ’ ยังถือเป็นอีกหนึ่งในช่องทางที่จะช่วยเปิดโอกาสให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างบุคลากรในแวดวงวิทยาศาสตร์ระหว่างประเทศไทยและสหราชอาณาจักร ตลอดจนการยกระดับความรู้ความสามารถของนักวิทยาศาสตร์ไทยให้ทัดเทียมในระดับสากล
สำหรับการแข่งขัน “เฟมแล็บ ไทยแลนด์ 2021” (FameLab Thailand 2021) นั้นเป็นการดำเนินการในปีสุดท้ายของบริติช เคานซิล ในฐานะเจ้าภาพการจัดงาน หลังจากนี้ โครงการ เฟมแล็บ ไทยแลนด์ 2022 จะดำเนินการโดยองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) และหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรอื่นๆ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพการสื่อสารวิทยาศาสตร์และงานวิจัยให้กับบุคลากรในแวดวงวิทยาศาสตร์ของประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพ
“อย่างไรก็ตาม บริติช เคานซิล ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาด้านความเชื่อมั่นต่อวิทยาศาสตร์ ส่งเสริมศักยภาพนักวิจัยรุ่นใหม่ และขับเคลื่อนระบบนิเวศด้านอุดมศึกษาและวิทยาศาสตร์ ผ่านการดำเนินงานโครงการ Going Global Partnerships ต่อยอดผลผลิตจากเวทีเฟมแล็บ และเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศต่อไป” นางเฮลก้า สรุปทิ้งท้าย
|