ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NRF กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีที่ผ่านมา NRF ได้เร่งสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเพื่อตอกย้ำการเป็นผู้นำอาหารโปรตีนจากพืช (Plant-based) โดยเดินหน้าปรับโครงสร้างบริษัทฯ ผ่านการจัดตั้งบริษัทย่อยในประเทศสหรัฐอเมริกา เนเธอร์แลนด์ และฮ่องกง พร้อมลุยธุรกิจ Plant-based และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระดับโลก รองรับแผนการลงทุนในอนาคต สอดรับกับทิศทางการเติบโตของตลาด Plant-based ที่ยังคงเป็นตลาดที่มีความน่าสนใจ และขยายตัวอย่างต่อเนื่องในทั่วโลก โดยในไตรมาส 4/2564 ได้นำ บจ.นิวทรา รีเจนเนอเรทีฟ โปรตีน (Nutra Regenerative Protein Co. Ltd : NRPT) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บจ. อินโนบิก (เอเซีย) หรือ (อินโนบิก) และ บจ. โนฟ ฟู้ดส์ ซึ่งได้บรรลุข้อตกลงร่วมกับ แพลนท์ แอนด์ บีน ประเทศอังกฤษ ในสัดส่วนการลงทุน 51% และ 49% ตามลำดับ เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อบริษัท แพลนท์ แอนด์ บีน ประเทศไทย : Plant & Bean (Thailand) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์โปรตีนจากพืชให้แก่ผู้บริโภคและผู้ประกอบการด้านอาหาร โดยจะนำเทคโนโลยีสายการผลิตโปรตีนจากพืชชั้นสูงจากประเทศอังกฤษมาตั้งไว้ที่ประเทศไทย ตั้งเป้ากำลังการผลิต 3,000 ตันต่อปี มีแผนจะเริ่มดำเนินการออกแบบ และก่อสร้างภายในปี 2565 เพื่อมุ่งขยายธุรกิจเป็นแพลตฟอร์มอาหารโปรตีนจากพืชในระดับโลก
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เพิ่มขีดความสามารถความเป็นผู้นำด้าน Specialty Food Manufacturer ผ่านการจำหน่ายเงินลงทุน 25% ในบริษัท โกลเด้น ไตรแองเกิล เฮลท์ จำกัด (GTH) ให้กับ Australis Capital Inc (AUSA) ซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจบริหารจัดการผลิตภัณฑ์กัญชงในอเมริกา เพื่อเข้ามาเป็นพันธมิตรในการเสริมศักยภาพในการแข่งขันให้กับ NRF ในธุรกิจกัญชง และเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันแผนกลยุทธ์ที่มุ่งมั่นจะเป็นผู้นำทางการตลาดในอุตสาหกรรมกัญชงในประเทศไทย ผ่านการมีพันธมิตรระดับโลก ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีความสามารถในการแข่งขันทั้งในภาคการส่งออกและอุปโภคบริโภคภายในประเทศ หลังจากที่อุตสาหกรรมกัญชงถูกกฎหมาย บริษัทฯ มองว่าอุตสาหกรรมดังกล่าวจะมีแนวโน้มที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และความรู้ ความเชี่ยวชาญ รวมถึงนวัตกรรมของบริษัท AUSA ทั้งในการเพาะปลูกและการผลิตจะเข้ามาช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้กับบริษัทในการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากกัญชงอีกด้วย ทั้งนี้ ในไตรมาส 4/2564 บริษัทฯ ได้มีการเปิดธุรกิจ Hemp House ภายใต้การดำเนินงานของ GTH ซึ่งเป็นไลฟ์สไตล์คาเฟ่เชิงสุขภาพ โดยเปิดสาขาแรกที่ห้างสรรพสินค้า The Emquartier ด้วยจุดเด่นที่เน้นผสมผสานพืชเพื่อสุขภาพมาเป็นส่วนผสมของอาหารและเครื่องดื่มที่ให้บริการในร้าน โดยใช้ผลิตผลหลักจากกัญชง
ทั้งนี้ เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นที่เชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัทฯ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ (บอร์ด) เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 มีมติให้นำเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 พิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานปี 2564 ในอัตราหุ้นละ 0.041 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 28 เม.ย. 2565 และเสนอจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 20 พฤษภาคมนี้
|