โลกจะสูญเสียน้ำมันจากรัสเซียมากน้อยแค่ไหน
มัลคอล์ม เมลวิลล์ ผู้จัดการกองทุนพลังงานของ Schroders กล่าวว่า “ตัวเลขคาดการณ์ของแต่ละตลาดอาจแตกต่างกันออกไป แต่คาดว่าโลกจะสูญเสียปริมาณน้ำมันมากถึง 4.5 ล้านบาร์เรลต่อวันหรือประมาณ 4% ของอุปทานน้ำมันทั้งหมดทั่วโลก ในระหว่างที่รัสเซียยังคงบุกยึดยูเครนอยู่ในขณะนี้
“ก่อนที่รัสเซียจะเข้าบุกยึดยูเครน ตลาดคาดการณ์ว่ากำลังการผลิตน้ำมันของรัสเซียจะเพิ่มขึ้นเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำมันทั่วโลกอันเนื่องมาจากสถานการณ์โควิด-19 อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ตลาดคาดว่ารัสเซียจะลดกำลังการผลิตลงซึ่งจะทำให้เกิดภาวะการขาดแคลนน้ำมันอย่างรุนแรง”
การขาดแคลนดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อตลาดน้ำมันอย่างไร
มัลคอล์ม กล่าวว่า “หากรัสเซียเริ่มลดกำลังการผลิตน้ำมันต่อพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลก ผลกระทบอาจรุนแรงและส่งผลอย่างถาวร เพราะตอนนี้โลกกำลังเผชิญปัญหาการขาดแคลนน้ำมันประมาณ 2.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งจะเปิดโอกาสให้สหรัฐฯ สามารถเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันได้ โดยล่าสุดการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ เพิ่งถูกขัดขวางจากหลายปัจจัย ได้แก่ มาตรการควบคุมเงินทุนเคลื่อนย้าย (Capital Controls) ปัญหาการดำเนินธุรกิจที่ต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social, Governance : ESG) และปัญหาด้านกำลังการผลิต
“นอกจากนี้ ยังมีความหวังว่ามาตรการคว่ำบาตรอิหร่านบางส่วนจะถูกยกเลิก และอิหร่านอาจสามารถผลิตน้ำมันได้เพิ่มอีก 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม เราจะยังคงขาดแคลนน้ำมันเป็นจำนวนทั้งหมด 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยสถานการณ์การขาดแคลนน้ำมันนี้ ประกอบกับปัญหามูลค่าสินค้าคงคลังที่ต่ำลงจนทุบสถิติ อาจหนุนให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นจนแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ได้”
อุปทานก๊าซของรัสเซียมีความสำคัญมากน้อยแค่ไหน
อุปทานก๊าซของรัสเซียมีความสำคัญอย่างมากที่สุดต่อประเทศในยุโรป โดยก๊าซของรัสเซียคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 40% ของปริมาณการนำเข้าก๊าซทั้งหมดของยุโรป ระดับปริมาณก๊าซที่ถูกจัดเก็บไว้ในยุโรปมีจำนวนคงเหลือน้อยลงแล้ว ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ปริมาตรความจุเต็มที่ 25% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยตามฤดูกาลที่ 38% ดังนั้นจึงถือว่าเหลือให้ใช้น้อยมาก และคณะกรรมาธิการยุโรปยังประกาศยืนยันแล้วด้วยว่าปริมาณก๊าซที่จัดเก็บจะต้องเต็ม 80% ภายในฤดูหนาวหน้า
มัลคอล์ม กล่าวเสริมอีกว่า “หากก๊าซกลายเป็นเครื่องมือทางการเมืองในภาวะสงคราม ก็นับเป็นเรื่องยากที่จะหาอะไรมาทดแทนการนำเข้าก๊าซจากรัสเซียได้ ยุโรปกำลังพยายามกระจายอุปทานและค้นหาแหล่งผลิตก๊าซอื่นๆ โดยตั้งความหวังไว้ที่สหรัฐฯ เป็นหลัก อย่างไรก็ตาม มันต้องใช้เวลาและกำลังการผลิตก๊าซของสหรัฐฯ ช่วยได้น้อยมากเมื่อเทียบกับปริมาณก๊าซที่รัสเซียจัดหาให้ โดยปัญหาความกังวลที่เกี่ยวข้องกับอุปทานก๊าซส่งผลให้ราคาก๊าซในยุโรปปรับเพิ่มขึ้นเป็น 120 ยูโรต่อเมกะวัตต์ต่อชั่วโมง ซึ่งพุ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวถึง 6 เท่า”
หากในกรณีที่รัสเซียตัดสินใจปิดก๊อกไม่ส่งก๊าซและน้ำมัน คณะกรรมาธิการยุโรปอาจหาวิธีการลดอุปสงค์หรือความต้องการพลังงานทั้ง 2 ชนิดให้น้อยลง ทำให้กลุ่มอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่อุตสาหกรรมหลักอาจปิดตัวลง ท่ามกลางสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นนี้ เยอรมนีและออสเตรียได้เริ่มจัดทำแผนฉุกเฉินเพื่อแบ่งสรรปันส่วนการจ่ายก๊าซในกรณีที่เกิดการขาดแคลนแบบฉับพลันแล้ว
ด้วยเงื่อนไขต่างๆ ที่มีอยู่ตอนนี้ี้ หากรัสเซียตัดสินใจหยุดจ่ายก๊าซ ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าปริมาณก๊าซที่ยุโรปจัดเก็บไว้อาจหมดลงภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน
|