“นับเป็นก้าวสำคัญในวงการเทค คอมปานี ครั้งใหญ่หลังควบรวมกิจการครั้งนี้ BE8 จะเป็นองค์กรที่มี Technical resource ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ในประเทศไทย เนื่องจากบริษัท X10 มีบุคลากรที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีกว่า 400 คน ผสมผสานกับบุคลากรของ BE8 อีกกว่า 200 คน ที่มีความเชี่ยวชาญและทักษะในด้านเทคโนโลยีดิจิทัลโดยเฉพาะ ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการทำงานต่างๆ เสริมรากฐานทางธุรกิจให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น พร้อมกับการสร้างมิติใหม่ให้กับลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชน ขณะเดียวกันยังเป็นการปลดล็อกข้อจำกัดด้านทรัพยากรบุคคลในวงการไอทีและเทคโนโลยีที่ขาดแคลนรองรับการเติบโตในอนาคต และยังส่งผลดีต่อการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายอภิเษก กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BE8 กล่าวว่า บริษัทฯ เดินหน้าตามยุทธศาสตร์มุ่งก้าวผู้นำ Digital Tech Consultant ในระดับภูมิภาคอาเซียน โดยวางเป้ารายได้เติบโต 5 เท่า ใน 3 ปีข้างหน้า ซึ่งบริษัทฯ ยังวางแผนการลงทุนและควบรวมกิจการอีกในอนาคต เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถการแข่งขันให้กับองค์กร ธุรกิจ หน่วยงานภาครัฐ ให้ก้าวทันกับยุคดิจิทัลที่เกิดความเปลี่ยนแปลงและมีเทคโนโลยีใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง
แผนธุรกิจในไตรมาส 2/2565 บริษัทฯ เตรียมผนึกกำลังกับพันธมิตรรายใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ใหม่ๆ สร้างมูลค่าทั้งทางผลิตภัณฑ์และบริการตอบโจทย์โลกดิจิทัลแบบครบวงจร พร้อมเดินหน้าขยายฐานลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง สอดรับกับความต้องการของลูกค้าที่ต้องการนำเทคโนโลยีมาสร้างข้อได้เปรียบทางธุรกิจ มั่นใจว่าด้วยยุทธศาสตร์ของ BE8 จะผลักดันผลการดำเนินงานทั้งปีของบริษัทฯ ให้เติบโตมากกว่า 50% โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565 บริษัทฯ มีมูลค่างานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) 564 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการประมูลงานโครงการใหญ่มูลค่ารวมประมาณ 569 ล้านบาท และคาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ 313 ล้านบาท หรือราว 55% ของงานในมือที่รอรับรู้รายได้ (Backlog)
ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2565 (มกราคม – มีนาคม 2565) บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในฐานะเป็นผู้นำ Digital Tech Consultant โดยมีรายได้รวม 123.01 ล้านบาท เติบโต 40.9 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 87.32 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 23.78 ล้านบาท เติบโต 39.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมา
นายกฤษดา เกตุภู่พงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท X10 จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ พร้อมนำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์การดำเนินธุรกิจด้านดิจิทัลเทคโนโลยี โดยเฉพาะการวางโครงสร้างการเชื่อมต่อระบบ Technology Integration Platform และ Open-API ด้วยระบบ MuleSoft ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นฐานสำคัญของการทำดิจิทัล แทรนส์ฟอร์เมชั่น นอกจากนี้บริษัทฯยังมีความเชี่ยวชาญในด้านดิจิทัลเทคโนโลยีอื่นๆที่จะมาเสริมในการทำดิจิทัลแทรนส์ฟอร์เมชั่น การผสานความแข็งแกร่งของทั้งสองบริษัทจะช่วยส่งมอบโซลูชั่นที่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้นตามที่ลูกค้าองค์กรต้องการ ซึ่งบริษัทฯ มีฐานลูกค้าทั้งในหน่วยงานภาครัฐและเอกชน อาทิ กลุ่มธนาคารกรุงศรีอยุธยา วิริยะประกันภัย กลุ่มบริษัทเซ็นทรัล และ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ฯลฯ มั่นใจว่าการควบรวมกิจการครั้งนี้จะผลักดัน BE8 ให้ก้าวเป็นผู้นำ Digital Tech Consultant ในระดับภูมิภาคอาเซียน
|