นอกจากจะเป็นโรงงานที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยแล้ว จุดเด่นของ “พอร์ต รอยัล” คือทีมงานที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญในการออกแบบกระบวนการผลิตที่ยืดหยุ่นที่สามารถปรับและเพิ่มกำลังการผลิตได้อย่างง่ายดาย พร้อมเครือข่ายโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพที่ครอบคลุมการขนส่งและการกระจายสินค้าแบบครบวงจรอีกด้วย
ดังนั้น การเข้าลงทุนใน “พอร์ต รอยัล” และร้านขนมอบ “บองชู” ครั้งนี้ ถือเป็นการช่วยตอบโจทย์การเติบโตที่สำคัญ 3 ประการให้กับธุรกิจอาหารของกลุ่มดุสิตธานี นั่นคือ การควบคุมมาตรฐานสินค้าและต้นทุนการผลิต (Standardize products-Optimize cost) เพื่อผลิตสินค้าที่ได้คุณภาพและมาตรฐานของดุสิตธานี และดูแลควบคุมต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับธุรกิจอาหารภายในกลุ่มดุสิตธานี ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจอาหารอื่นๆ ในเครือ, โอกาสในการเติบโต (Opportunity to Grow) คือการใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญและกระบวนการผลิตที่ทันสมัยในการพัฒนาสูตรและปรับปรุงคุณภาพของวัตถุดิบ เพื่อต่อยอดไปสู่การรับจ้างผลิต (OEM) ในรูปแบบ B2B (Business to Business) และรับรู้รายได้อย่างสม่ำเสมอ (Recurring Revenue) จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของการขยายแฟรนไชส์ของ “บองชู” ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จะช่วยสร้างรายได้และผลตอบแทนที่สม่ำเสมอให้กับธุรกิจอาหาร และยังเป็นการช่วยเพิ่มพูนประสบการณ์ในการทำการตลาดให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม (B2C)
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดุสิตธานี กล่าวว่า กลยุทธ์การลงทุนของกลุ่มดุสิตธานี ยังอยู่ภายใต้ยุทธศาสตร์หลัก 3 ประการที่วางไว้ คือ สร้างสมดุล สร้างการเติบโต และกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ โดยที่ผ่านมาการลงทุนในธุรกิจอาหารของกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในบริษัท เอ็บเพอคิวร์ เคเทอริ่ง จำกัด ผู้นำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่ให้บริการกับโรงเรียนนานาชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การลงทุนในบริษัท เดอะ เคเทอเรอร์ส จอยท์ สต็อก จำกัด (The Caterers Joint Stock) หรือ “เดอะ เคเทอเรอร์ส” (The Caterers) ซึ่งเป็นผู้นำด้านการจัดเลี้ยงสำหรับโรงเรียน รวมถึงงานเลี้ยงรับรองนอกสถานที่ในประเทศเวียดนาม ตลอดจนการผนึกความร่วมมือกับ KAUAI (คาวาอิ) ซึ่งเป็นแบรนด์ร้านอาหารสุขภาพยอดนิยมจากประเทศแอฟริกาใต้เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย สามารถสร้างการเติบโตให้กับพอร์ตลงทุนของกลุ่มดุสิตธานีได้อย่างน่าพอใจ
“เรายังมองเห็นโอกาสและศักยภาพการเติบโตของธุรกิจอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเรากลับมาใช้ชีวิตปกติได้มากขึ้น หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายและกิจกรรมทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ซึ่งการเดินทางของธุรกิจอาหารของกลุ่มดุสิตธานี ยังคงมุ่งมั่นกับการมองหาโอกาสใหม่ๆ ที่จะเติมเต็ม ต่อยอด สร้างผลตอบแทนและสร้างโอกาสเติบโตอย่างแข็งแกร่ง” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดุสิตธานี กล่าว
|