“เชฟไทยในเวทีโลก” ความจริงที่ไม่ใช่ความฝัน

“ผมมีวันนี้ได้เพราะประเทศไทย” 

นี่คือคำกล่าวของ เชฟวิลเมนต์ ลีออง เชฟชาวสิงคโปร์หัวใจไทย ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารประจำภูมิภาคเอเชีย ของสมาคมเชฟโลก (World Association of Chefs’ Societies หรือ Worldchefs) ดูแลสมาชิกในเครือข่ายรวม 21 ประเทศในเอเชีย จากสมาชิกทั้งหมด 110 ประเทศทั่วโลก 

จุดเริ่มต้นของผมเกิดขึ้นที่ประเทศไทย และผมได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรสำคัญอย่าง บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ที่เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักมากว่า 10  ปี ตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง สถาบัน Thailand Culinary Academy องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ซึ่งมีแนวคิดร่วมกันในการ “ให้” มุ่งมั่นพัฒนาเยาวชนไทยสู่วงการเชฟมืออาชีพ รวมถึงการผลักดันคนที่สนใจอาชีพนี้เข้าสู่เวทีการแข่งขันในระดับโลก 

10 ปี สอนเด็กไทยกว่า 600 คน 

เชฟวิลเมนต์ ก่อตั้งสถาบัน Thailand Culinary Academy เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชน ได้เรียนทำอาหาร พัฒนาทักษะ สู่การเป็นมืออาชีพ ที่พร้อมก้าวสู่การแข่งขันในเวทีต่าง ๆ ทั่วโลก โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา สถาบันฯ ได้ฝึกฝีมือให้กับเยาวชนไทยไม่ต่ำกว่า 600 คน ส่งทีมไปแข่งขันในเวที  ต่าง ๆ รวมแล้ว 73 ครั้งใน 19 ประเทศ และกวาดเหรียญรางวัลมากกว่า 1,500 เหรียญ โดยมีแม็คโครเป็นผู้สนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีเด็กไทยได้รับการพัฒนาทักษะและเก่งขึ้นทุกปี ซึ่งช่วยผลักดันให้วงการเชฟไทยมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติมากยิ่งขึ้น 

“สิ่งที่ผมทำเพื่อต้องการพัฒนาวงการเชฟไทยให้มีมาตรฐาน เปิดโอกาสให้เยาวชนไทยได้พิสูจน์ฝีมือ
ในเวทีแข่งขันระดับนานาชาติ นอกจากนี้ ยังมุ่งใช้วิชาชีพเชฟในการช่วยเหลือสังคม เช่น ช่วงที่มีคนตกงานจำนวนมากจากโควิด-19 สถาบันฯ ได้ทำอาหารแจกจ่ายในชุมชนต่าง ๆ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ทำให้ผมได้รับเลือกเป็นหนึ่งในกรรมการบริหารของสมาคมเชฟโลก” เชฟวิลเมนต์กล่าว 

ผลักดันเชฟรุ่นใหม่สร้างประวัติศาสตร์ 

การได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในกรรมการบริหารของสมาคมเชฟโลกในครั้งนี้ เชฟวิลเมนต์ ตั้งปณิธานในการพัฒนาวงการเชฟไทยให้ก้าวสู่ยุคใหม่ ยกระดับมาตรฐานให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลียนแปลงไป  ขณะเดียวกันในฐานะที่ต้องดูแลเชฟอีก 21 ประเทศในเอเชีย เขามีแนวคิดที่จะส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นฐานในการพัฒนาวงการเชฟเอเชียให้เข้มแข็ง ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่าง แม็คโคร ในฐานะที่เป็นแหล่งรวมวัตถุดิบชั้นนำ แม็คโครยังวางยุทธศาสตร์ที่จะก้าวสู่การเป็นผู้นำค้าส่งค้าปลีกของเอเชีย พร้อมแนวคิดในการพัฒนาผู้ประกอบการร้านอาหาร รวมถึงสนับสนุนอาชีพเชฟโดยตรง ด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำให้ทั่วโลกหันมามองประเทศไทยในฐานะ ครัวของโลก อย่างแท้จริง 

“เราจะร่วมกับแม็คโคร สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้อาชีพเชฟและธุรกิจร้านอาหาร ปรับเปลี่ยนแนวคิดและมุมมองใหม่ในการทำธุรกิจ ต้องสร้างองค์ความรู้ใหม่ ๆ  ในการบริหารจัดการธุรกิจ และบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ในยุคนิวนอร์มอล ยกตัวอย่างเช่น ร้านอาหารยุคใหม่ไม่จำเป็นต้องสต็อกวัตถุดิบ แต่เราสามารถใช้ประโยชน์จากแม็คโครให้เป็นเสมือนโกดังสินค้า ที่ช่วยร้านค้าในการบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ทำให้ธุรกิจมีกำไรมากขึ้นได้” เชฟวิลเมนต์กล่าว 

สนับสนุนเชฟไทยสู่ระดับโลก 

ด้าน ศิริพร เดชสิงห์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการสื่อสารองค์กร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทย ถือเป็นธุรกิจที่สำคัญ มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 3 แสนล้านบาทต่อปี และแม็คโครเองก็มีลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการร้านอาหารรายย่อยจำนวนมากที่ยังขาดทักษะฝีมือ และการบริหารจัดการธุรกิจอย่างมืออาชีพ เป็นที่มาของการจัดตั้งแม็คโคร โฮเรก้า อคาเดมี หรือ MHA เพื่อให้ความรู้ต่อยอดในวิชาชีพและสร้างรายได้ โดยเปิดอบรมทั้งออนไลน์และออฟไลน์ รวมทั้งจัดกิจกรรมใหญ่ประจำปี “แม็คโคร มหกรรมครบเครื่องเรื่องอาหารและอุปกรณ์” ซึ่งปีนี้จะจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน เป็นครั้งที่ 15  นับเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจจัดเลี้ยง สถาบันอาหาร โรงเรียนสอนทำอาหาร ผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจ ตลอดจนบุคคลทั่วไป ในงานนี้ยังเป็นเวทีแห่งโอกาสให้กับผู้ที่ต้องการเดินทางสายอาชีพนี้ เพราะมีกิจกรรมการแข่งขัน แม็คโคร โฮเรก้า ชาเลนจ์ คัดเลือกผู้ชนะในแต่ละภูมิภาคมาแข่งขันระดับประเทศและเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันเวทีระดับนานาชาติ 

นอกจากนี้แม็คโครยังทำงานร่วมกับสมาคมเชฟประเทศไทย สมาคมภัตตาคารไทย รวมถึงสถาบัน Thailand Culinary Academy อย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ สร้างเวทีในการฝึกประสบการณ์ ต่อยอดการเป็นเชฟมืออาชีพในธุรกิจอาหารที่ประสบความสำเร็จอย่างมั่นคงและยั่งยืน 

 “แม็คโครให้ความสำคัญกับการสนับสนุนอาชีพเชฟมาโดยตลอด เพราะเชื่อมั่นว่าเชฟที่มีชื่อเสียง จะช่วยยกระดับอุตสาหกรรมอาหารของไทยให้ก้าวสู่การเป็นครัวของโลก ที่สำคัญจะทำให้เด็กรุ่นใหม่มีมุมมองที่ดีต่ออาชีพเชฟ เกิดความภาคภูมิใจ และมีแรงบันดาลใจในการสร้างร้านอาหารไทยให้มีคุณภาพ มีมาตรฐาน สร้างชื่อเสียงให้เป็นที่รู้จักในเวทีโลก ทำให้อุตสาหกรรมอาหารพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตต่อไป” ศิริพรกล่าว