เนื่องในวันเยาวชนสากล เอ. เอส. วัตสัน กรุ๊ป ประกาศความมุ่งมั่นในการสร้างงานให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่ จำนวน 200,000 ตำแหน่งทั่วโลกภายในปี พ.ศ.2573 โดยความมุ่งมั่นดังกล่าวยังเป็นการมอบโอกาส ทักษะ และประสบการณ์ให้กับเยาวชนจากทั่วทุกมุมโลกเพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ชีวิตการทำงานในโลกธุรกิจขายปลีกที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
การลงทุนเพื่ออนาคตของคนรุ่นใหม่
จากข้อมูลของสภาเศรษฐกิจโลก หรือ World Economic Forum (WEF) พบว่า สถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อตลาดแรงงานทั่วโลก และกลายเป็นเรื่องท้าทายอย่างยิ่งสำหรับเยาวชนทั่วโลก ซึ่งต้องพบกับปัญหาการว่างงานมาตั้งแต่ก่อนการแพร่ระบาดแล้ว โดยคนรุ่นใหม่ที่มีอายุตั้งแต่ 15 - 24 ปี มีแนวโน้มที่จะไม่มีงานทำมากกว่าคนที่มีอายุ 25 ปี ขึ้นไปถึงสามเท่า หากแต่สถานการณ์ COVID-19 ได้ทำให้ปัญหานี้ยิ่งแย่ลงไปกว่าเดิม
และเพื่อเป็นการจัดการกับความท้าทายระดับโลกนี้ เอ. เอส. วัตสัน กรุ๊ป จึงได้วางแผนที่สร้างงาน จำนวน 200,000 ตำแหน่งงานทั่วโลกให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่เหล่านี้ เพื่อช่วยให้พวกเขาได้รับประสบการณ์อันมีค่าในการพัฒนาอาชีพในโลกธุรกิจการค้าปลีก โดยจะเป็นตำแหน่งงานที่คลอบคลุมสาขาต่างๆ ของธุรกิจของเรา ไม่ว่าจะงานในส่วนร้านค้า ออฟฟิศ และการกระจายสินค้าโดยตำแหน่งงานยังมีบทบาทที่แตกต่างกันไป ตั้งแต่ระดับผู้เชี่ยวชาญด้านการบริการลูกค้า การตลาด ด้านดิจิทัล eCommerce การวิเคราะห์ การเงิน ตลอดจนงานด้านความยั่งยืน (Sustainability) เป็นต้น
คุณพาร์คสัน ซึง ผู้อำนวยการฝ่ายบุคคล (เอเชีย) ของ เอ. เอส. วัตสัน กรุ๊ป กล่าวว่า “เราทุกคนควรมีส่วนรับผิดชอบในการบ่มเพาะคนรุ่นใหม่ โดยสิ่งที่พวกเขาเหล่านี้ต้องการ คือ โอกาสจากบริษัทต่างๆ ให้พวกเขาได้พิสูจน์ความสามารถของตัวเอง โดยเอ. เอส. วัตสัน กรุ๊ป มีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่จะได้มอบโอกาสที่ดีเหล่านี้ให้กับเยาวชนได้มีความหวังในอนาคตของพวกเขาท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก และสถานการณ์โรคระบาดต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สร้างความท้าทายในการก้าวสู่โลกการทำงานของพวกเขา ทั้งนี้ ความมุ่งมั่นของเราในเรื่องนี้ยังไม่เพียงแต่จะช่วยสร้างความมั่นใจและเพิ่มขีดความสามารถในการทำงานของพวกเขา แต่ยังเป็นการช่วยเสริมสร้างธุรกิจของเราเองผ่านการรับฟังเสียงของคนรุ่นใหม่อีกด้วย”
สร้างความแข็งแกร่งสู่อนาคต
วัตสัน ในฐานะผู้กำหนดมาตรฐานใหม่ทางธุรกิจ ได้เปลี่ยนโฉมธุรกิจการค้าปลีกไปอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการสร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งแบบผสมผสานผ่านกลยุทธ์ O+O (ออฟไลน์ พลัส ออนไลน์) ตลอดจนการสร้างงานที่มาพร้อมบทบาทและตำแหน่งใหม่ๆ ที่หลากหลาย อย่างไรก็ตาม การก้าวสู่โลกแห่งการทำงานอาจเป็นเรื่องยากสำหรับคนรุ่นใหม่ เพราะพวกเขายังขาดประสบการณ์และทักษะการทำงานเฉพาะทางที่ตำแหน่งงานเหล่านี้ต้องการ
คุณโจแอนน์ แมกกี้ ผู้อำนวยการฝ่ายบุคคล (ยุโรป) ของ เอ. เอส. วัตสัน กรุ๊ป กล่าวเสริมว่า “เยาวชนคนรุ่นใหม่คือ แหล่งศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ที่มีความสำคัญ การพัฒนาทักษะของพวกเขาจะสามารถช่วยให้อนาคตทางธุรกิจของเรามีความแข็งแกร่งมากขึ้น โดยเราไม่เพียงแต่มอบโอกาสในการทำงาน แต่ยังให้การฝึกอบรมและการฝึกสอนเพื่อให้พวกเขาเพียบพร้อมไปด้วยทักษะที่จำเป็นในการเข้าสู่โลกแห่งอาชีพในธุรกิจค้าปลีกแบบ O+O ซึ่งเราตั้งเป้าที่จะมอบการฝึกอบรมราว 5 ล้านชั่วโมงให้กับเยาวชนทั่วโลกเพื่ออนาคตที่สดใสของพวกเขา โดยเรากำลังรอคนรุ่นใหม่จำนวน 200,000 คน มาร่วมงานกับเราตั้งแต่ตอนนี้จนถึงปี พ.ศ.2573 เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจของ เอ. เอส. วัตสัน ให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป”
เชื่อมั่นพลังคนรุ่นใหม่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้
เอ. เอส. วัตสัน ได้ให้ความสำคัญและลงทุนกับการพัฒนาบุคลากรมาตลอดผ่านโครงการต่างๆ ที่นำการเรียนรู้ระหว่างการทำงานมาผนวกเข้ากับการศึกษาต่อ ซึ่งกว่า 10 ปีแล้วที่ร้านค้าในเครือของ เอ. เอส. วัตสัน อย่าง Superdrug และ Savers ได้ดำเนินโครงการ Apprenticeship Scheme ในอังกฤษ เพื่อช่วยเหลือเยาวชนที่สำเร็จการศึกษาในโรงเรียนและต้องการหาประสบการณ์ในการทำงานมากกว่าเรียนต่อในระบบการศึกษาภาคปกติ ซึ่งโครงการดังกล่าวทำให้ เอ. เอส. วัตสัน ได้รับการยอมรับในฐานะที่เป็นนายจ้างดีเด่นด้านการฝึกอบรมพนักงานในธุรกิจค้าปลีก ซึ่งในปัจจุบันได้ช่วยให้เยาวชนได้รับวุฒิการทำงานในฐานะพนักงานฝึกหัดในธุรกิจค้าปลีกจำนวนกว่า 4,500 คนแล้ว
คุณเคย์ลีห์ อาร์โนลด์ ผู้เริ่มต้นจากการเป็นเด็กฝึกงานและปัจจุบันได้ก้าวมาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการร้าน Superdrug กล่าวว่า "โครงการ Apprenticeship Programme ได้นำความเปลี่ยนแปลงและเปิดโลกใบใหม่ รวมถึงช่วยให้เข้าใจบทบาทในโลกสมัยใหม่ในธุรกิจค้าปลีกอีกด้วย ฉันรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับโอกาสอันมีค่านี้ที่ Superdrug การได้ทำงานในธุรกิจขายปลีกเป็นงานแรกในชีวิตกลายเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าสำหรับฉันมากๆ”
ร้าน Kruidvat ในเนเธอร์แลนด์ เปิดโอกาสให้นักเรียนได้เข้ามาเรียนรู้หาประสบการณ์จากการทำงานภาคปฏิบัติ และยังเป็นสถานที่ทำงานที่ได้รับการรับรองสำหรับการฝึกงาน การทำงาน และการเรียนรู้ อีกด้วย โดยในแต่ละปี มีคนรุ่นใหม่เข้าร่วมฝึกงานในโครงการนี้ประมาณ 1,400 คน
คุณกวิน ร็อคส์ หนึ่งในเด็กฝึกงานที่ร้าน Kruidvat กล่าวว่า "การได้มาฝึกงานที่ Kruidvat เปิดโอกาสให้ฉันได้นำทฏษฎีความรู้ต่างๆที่ได้จากโรงเรียนมาประยุกต์ใช้ในภาคการทำงาน และยังช่วยเพิ่มพูนประสบการณ์ของฉันอีกด้วย ฉันรู้สึกคุ้มค่าที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจนี้และช่วยให้ฉันพัฒนาอาชีพในธุรกิจค้าปลีกต่อไป”
A.S. Watson Retail Academy จัดเป็นสถาบันอบรมธุรกิจค้าปลีกแห่งแรกของเอเชีย ซึ่งถูกก่อตั้งขึ้นในฮ่องกงตั้งแต่ปี พ.ศ.2561 โดยเอ. เอส. วัตสัน ยังเป็นบริษัทแห่งแรกที่เปิดหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงด้านการจัดการการค้าปลีก ซึ่งถือเป็นหลักสูตรระดับ 5 ตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิ (Qualifications Framework - QF) หรือเทียบเท่ากับระดับปริญญาตรี โดยปัจจุบัน มีผู้สำเร็จการศึกษาจากหลักสูตรดังกล่าวในทุกระดับตามกรอบมาตรฐาน QF จำนวนกว่า 4,400 คน แล้ว
“หลักสูตรการจัดการธุรกิจค้าปลีกช่วยให้ฉันมีคุณสมบัติมากขึ้น และยังช่วยเปิดมุมมองใหม่ๆในการทำงานให้กับฉันอีกด้วย นอกจากฉันจะได้เรียนรู้การดำเนินธุรกิจแบบ O+O จากธุรกิจระดับโลกในเรื่องการค้าปลีก ฉันยังรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยขับเคลื่อนธุรกิจนี้ให้ดีขึ้นในทุกๆ วันอีกด้วย” คุณรอย ซาง ผู้สำเร็จการศึกษาจาก A.S. Watson Retail Academy ซึ่งปัจจุบันได้ก้าวมาเป็นผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการขายของ วัตสัน ฮ่องกง
คนรุ่นใหม่มักเปี่ยมไปด้วยพลังและศักยภาพในการสร้างความเปลี่ยนแปลง พวกเขาไม่เพียงแต่ต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่ยังต้องการเปลี่ยนสิ่งต่างๆ บนโลกใบนี้ให้ดีขึ้นอีกด้วย ความพยายามของ เอ. เอส. วัตสัน ในการจัดหางานให้กับคนรุ่นใหม่ จึงยังเป็นการผนึกกำลังกับพวกเขาเพื่อขับเคลื่อนแผนงานด้านความยั่งยืนต่างๆ ของ เอ. เอส. วัตสัน อีกด้วย และเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ ทางกลุ่มจึงได้จัดตั้งคณะกรรมการคนรุ่นใหม่ด้านความยั่งยืน หรือ “Next Gen” Sustainability Committee ซึ่งสมาชิกประกอบด้วย คนรุ่นใหม่ที่เป็น GenY/ GenZ จำนวน 18 คน จาก 12 ตลาดทั้งในเอเชียและยุโรป โดยพวกเขาจะทำงานร่วมกับคณะกรรมการด้านความยั่งยืนระดับโลกของบริษัท หรือ Global Sustainability Committee เพื่อเร่งสร้างความก้าวหน้าด้านความยั่งยืนและเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ให้ดีขึ้นกว่าเดิม
ในขณะโลกของเรากำลังเผชิญกับวิกฤตการณ์โรคระบาด ปัญหาทางเศรษฐกิจยังได้กลายมาเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่สำหรับเยาวชนคนรุ่นใหม่จำนวนมาก ด้วยเหตุนี้ เอ. เอส. วัตสัน จึงมีความมุ่งมั่นที่จะให้พื้นที่และโอกาสกับพวกเขาในการเริ่มต้นอาชีพและยังเป็นการตอกย้ำบทบาทของทางกลุ่มในฐานะบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างยั่งยืนอีกด้วย
|