ลอนดรี้บาร์ เปิดแคมเปญ “ลอนดรี้บาร์  พลัส”

ธุรกิจร้านสะดวกซัก  เป็นอีกหนึ่งธุรกิจมาแรงสวนกระแสโควิด-19 ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี แต่การตัดสินใจเลือกลงทุนกับแบรนด์ใดนั้น ต้องคิดทบทวนเปรียบเทียบกันหลายตลบ  เพราะด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นหลักล้าน  แถมในตลาดก็มีตัวเลือกอยู่มากมาย  หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่กำลังตัดสินใจ ขอแนะนำแบรนด์ฮิตติดอันดับ “ลอนดรี้บาร์” กับข้อเสนอพลัสความคุ้มค่าให้ครบเครื่องและมากกว่า กับมาตรฐานด้านชื่อเสียงที่ติดตลาดทั้งในและต่างประเทศมายาวนานกว่า 8 ปี มีร้านสาขารวมกว่า 850 สาขาทั่วโลก          

นางสาวพิมลวรรณ ชีวเกรียงไกร ผู้บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ลอนดรี้บาร์ ไทย จำกัด บอกเล่าถึงแบรนด์ลอนดรี้บาร์ว่า “ลอนดรี้บาร์เป็นร้านสะดวกซักที่ถือกำเนิดเมื่อปี 2013 จากประเทศมาเลเซีย และเริ่มขยับขยายไปยังยุโรปตะวันออก บรูไน  ตุรกี  ฟิลิปปินส์  และ สิงคโปร์  สำหรับประเทศไทยได้เข้ามาทำการตลาดรวม 3 ปี ปัจจุบันมีร้านสาขาจำนวน 200 แห่งทั่วประเทศ  คอนเซ็ปต์ของลอนดรี้บาร์มีความครบวงจรในแง่ของผู้ใช้บริการและผู้ลงทุน ทำให้มีความโดดเด่นแตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆในท้องตลาดโดยสิ้นเชิง 

            ในแง่ผู้ใช้บริการนั้นลอนดรี้บาร์เป็นร้านสะดวกซักที่มีเครื่องจ่ายน้ำยาอัตโนมัติฟรี ได้แก่ น้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม และน้ำยาฆ่าเชื้อ  นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถชำระเงินผ่านแอพพลิเคชั่น  LB Pay TH  จึงสร้างความสะดวกสบาย และตอบโจทย์เรื่องสุขอนามัยความปลอดภัยในยุคนี้ได้เป็นอย่างดี ส่วนในแง่ผู้ลงทุนนั้นลอนดรี้บาร์มีพาร์ทเนอร์ คือ ธนาคารกรุงเทพ และ ธนาคารไทยพาณิชย์ ให้การสนับสนุนในเรื่องเงินกู้สูงสุดถึง 70-80%  นอกจากนี้ใครที่สนใจเปิดร้านสะดวกซัก แต่ยังไม่มีทำเล ลอนดรี้บาร์มีทำเลให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ทำเลในปั๊มน้ำมัน หน้าร้านสะดวกซื้อ พื้นที่เปล่า เป็นต้น พร้อมเทรนนิ่งในเรื่องการบริหารจัดร้านร้านให้ด้วย ดังนั้นลอนดรี้บาร์จึงสามารถตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างครบวงจร”
            สำหรับผู้ที่สนใจเปิดร้านสะดวกซักลอนดรี้บาร์นั้น เบื้องต้นควรมีพื้นที่ประมาณ 40 ตารางเมตรขึ้นไป หรือตึกแถว 1 คูหาก็สามารถเปิดร้านสะดวกซักได้ โดยลอนดรี้บาร์จะติดตั้งเครื่อง  ตกแต่งสถานที่ และดูแลเรื่องการตลาดให้  สำหรับแพ็กเกจให้เลือกลงทุนนั้น สามารถปรับให้รองรับกับความต้องการลูกค้าและทำเลที่ตั้งได้  โดยแพ็กเกจหลัก ๆมี 3 รูปแบบเป็นแนวทางเบื้องต้น ดังนี้ 

1.      Bronze Package ลงทุน 2.1 ล้านบาท สิ่งที่จะได้รับ ได้แก่ เครื่องซักผ้า 4 เครื่อง  เครื่องอบผ้า 2 เครื่อง  บริการติดตั้งเครื่อง และตกแต่งร้าน

2.      Silver Package ลงทุน 2.75 ล้านบาท สิ่งที่จะได้รับ ได้แก่  เครื่องซักผ้า 5 เครื่อง เครื่องอบผ้า 4 เครื่อง บริการติดตั้งเครื่อง และตกแต่งร้าน

3.      Gold Package ลงทุน 3.65 ล้านบาท สิ่งที่จะได้รับ ได้แก่ เครื่องซักผ้า 7 เครื่อง  เครื่องอบผ้า 6 เครื่อง บริการติดตั้งเครื่อง และตกแต่งร้าน 

ล่าสุดลอนดรี้บาร์เปิดตัวแคมเปญ “ลอนดรี้บาร์ พลัส” ด้วยเล็งเห็นว่า นอกจากตัวร้านสะดวกซักที่สามารถทำเงินให้ลูกค้าได้แล้ว ยังมีธุรกิจเสริมอื่นๆที่สร้างรายได้เพิ่มได้ โดยลอนดรี้บาร์ได้จับมือกับพันธมิตรธุรกิจไม่ว่าจะเป็น บริการตู้ล็อกเกอร์ “LOCKBOX”  บริการขนส่งพัสดุไปรษณีย์ “Ship Smile” และบริการตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ “Vending Plus” ที่ลูกค้าสามารถเลือกลงทุนเสริมเข้ามาเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการที่ร้าน และสร้างรายได้ที่มากกว่า ที่สำคัญเป็นราคาพิเศษที่ถูกกว่าการไปติดต่อเองโดยตรง  จึงเป็นที่มาของลอนดรี้บาร์ พลัส การลงทุนที่มากกว่าร้านสะดวกซัก 

            ระยะเวลาคืนทุนในการเปิดร้านสะดวกซักใช้เวลาประมาณ 3-5 ปีทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับทำเล  การใส่ใจในเรื่องความสะอาดร้าน และการบริการเป็นหลัก ทำเลทองควรเลือกทำเลที่มีกลุ่มคนทำงาน  ทำเลใกล้มหาวิทยาลัย  หรือทำเลใกล้ตลาดสด โดยลอนดรี้บาร์จะช่วยทำการตลาดให้ตั้งแต่ก่อนเปิดร้าน อีกทั้งช่วยดูแลส่งเสริมการตลาดให้ยอดขายเป็นไปตามเป้า พร้อมแนะนำเทคนิคในเรื่องการบริหารจัดการร้าน ที่สำคัญลอนดรี้บาร์เลือกใช้เครื่องซัก-อบอุตสาหกรรม มาตรฐานโลกจาก Alliance USA จึงมั่นใจได้ในความแข็งแรงทนทาน พร้อมทีมช่างที่มีประสบการณ์เข้าไปดูแลบำรุงรักษาเครื่องทุก ๆ 3 เดือน           

          คุณพิมลวรรณ ทิ้งท้ายฝากเคล็ดลับในการบริหารร้านสะดวกซักให้ประสบความสำเร็จไว้ว่า “การเปิดร้านสะดวกซักให้ประสบความสำเร็จ นอกจากเลือกแบรนด์ที่น่าเชื่อถือและมีจุดขายแล้ว  อีกส่วนที่สำคัญคือผู้ลงทุนต้องมีความใส่ใจการทำธุรกิจ ควรหมั่นเข้าไปดูแลร้านตรวจดูแลร้านให้สะอาดเรียบร้อย อาจเสริมแม่บ้านเข้ามาช่วยในเรื่องการบริการ แนะนำลูกค้า และช่วยทำความสะอาดร้าน ก็สามารถช่วยเพิ่มยอดขายให้กับทางร้านได้เป็นอย่างดี   สิ่งสำคัญคือผู้ลงทุนต้องรู้จักกลุ่มลูกค้าของตัวเองว่าเป็นกลุ่มไหน พฤติกรรมเป็นอย่างไร เพื่อจะได้ทำการตลาดได้ตรงกลุ่มลูกค้าในพื้นที่ให้มากที่สุด