
ตอนนี้ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็จะได้ยินคนพูดถึงแต่เจ้าเมล็ดเจีย Chia Seed หรือบางคนก็เรียกว่าเมล็ดเชีย กันใหญ่เพราะได้ยินว่าเจ้าธัญพืชเม็ดเล็กๆที่ดูเหมือนเมล็ดงานี้มีประโยชน์สามารถช่วยลดความอ้วนลดน้ำหนักได้ แถมยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกหลายอย่าง จนทำให้ตอนนี้เมล็ดเจียขายดี เวลาไปซุปเปอร์มาร์เก็ตก็มักจะมีคนถามหา และบางครั้งต้องแย่งกันซื้อเลยทีเดียว คนที่หันมากินเมล็ดเจียส่วนใหญ่แล้วก็เพราะต้องการควบคุมน้ำหนัก ลดความอ้วน
แต่ถึงอย่างนั้นเมล็ดเจียก็มีสรรพคุณที่ดีหลายอย่างทำให้สุขภาพของเราแข็งแรง มีวิตามินอยู่มากมาย อีกทั้งยังให้พลังงานต่ำคนที่กำลังมองหาอาหารลดความอ้วนอยู่ ก็เลยหันไปซื้อเมล็ดเจียมาปรุงอาหารกันใหญ่ คนส่วนใหญ่แล้วมองว่าเมล็ดเชีย หรือเมล็ดเจียนี้ ก็เหมือนกับเมล็ดแมงลัก แต่ที่จริงแล้วทั้งสองอย่างนี้เป็นธัญพืชคนละชนิดกัน ถึงแม้ว่าทั้งสองอย่างนี้จะมีคุณสมบัติพองตัวเมื่อนำไปแช่น้ำ แต่ถ้าลองสังเกตดูด้วยตาเปล่าจะเห็นว่าเมล็ดเจียจะมีรูปร่างรี และมีสีน้ำตาลออกเทา มีลวดลายเล็กน้อย แตกต่างจากเมล็ดแมงลักที่มีสีดำเข้ม และเมื่อนำไปแช่น้ำจนเกิดการพองตัวแล้ว ก็จะเห็นได้ว่าเมล็ดเจียจะมีลักษณะเป็นเม็ดใส ในขณะที่เม็ดแมงลักจะมีเมืองสีขาวขุ่นอยู่รอบๆ
เมล็ดเจีย หรือ Chia Seed มีสารอาหารอะไรบ้าง
ในประเทศสหรัฐอเมริกามีการทำวิจัยเพื่อค้นหาคุณค่าทางโภชนาการของเมล็ดเจียนี้และค้นพบว่าธัญพืชเม็ดเล็กที่เราเห็นนี้มีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกรดไขมันดีชนิดโอเมก้า 3 โอเมก้า 6 แคลเซี่ยม โปรตีน สารต้านอนุมูนอิสระไฟเบอร์ และอื่นๆอีกมากมาย

ประโยชน์ของเมล็ดเจียต่อสุขภาพ
1. ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน เนื่องจากเมล็ดเจียนี้มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ ที่สำคัญคือมีไฟเบอร์สูง ที่สามารถช่วยให้ร่างกายรักษาสมดุลย์ของน้ำตาลในเลือดได้
2. การที่เมล็ดเจียมีเกิดไขมันดีโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ถ้าเรากินเข้าไปแล้วมันก็จะไปช่วยปรับสมดุลในระบบไหลเวียนโลหิตของร่างกายเรา คนที่มีปัญหาเรื่องคลอเลสเตอรอลสูง ก็สามารถกินได้
3. ทำให้ร่างกายเผาผ่านพลังงานได้ง่ายขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้คนที่ต้องการลดน้ำหนักลดความอ้วน หันมากินเมล็ดเจียกันมากขึ้น
4. ช่วยบำรุงความจำ อย่างที่เห็นกันไปแล้วว่าเมล็ดเจียนี้มีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูงเพราะฉะนั้นก็ไม่แปลกใจอะไรที่มันจะไปช่วยบำรุงประสาทและสมองให้ทำงานได้อย่างดียิ่งขึ้น คนสมาธิสั้นไม่มีสมาธิในการทำงานหรือเรียนหนังสือ ก็สามารถกินเมล็ดเจียเพื่อช่วยฟื้นฟูระบบสมองและความจำได้เช่นกัน
5. ดีต่อระบบย่อยอาหาร ธัญพืชที่ชื่อว่าเมล็ดเจียนี้มีไฟเบอร์ที่มีประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหาร การกินสิ่งนี้ผสมกับอาหารที่กินอยู่แล้วในชีวิตประจำวันก็จะช่วยให้การย่อยอาหารเป็นไปได้อย่างปกติ
6. เมล็ดเจียมีแร่ธาตุที่สำคัญต่อการเสริมสร้างกระดูกและฟันที่แข็งแรง จึงมีประโยชน์ในการป้องกันโรคกระดูกพรุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงที่มีอัตราการเป็นโรคกระดูกพรุนมากกว่าผู้ชาย
7. ไม่ทำให้ท้องผูก อย่างที่บอกกันไปแล้วว่าเมล็ดเจียมีไฟเบอร์มาก เพราะฉะนั้นคนที่มีปัญหาในเรื่องการขับถ่ายก็สามารถกินได้ นอกจากนี้มันยังมีความสามารถช่วยดูดซึมสารพิษตกค้างในลำไส้ ช่วยล้างสารพิษให้ออกมาในรูปของเสียไม่ทำให้เราท้องผูกด้วย
8. กินแล้วไม่ทำให้อ้วน เหมาะสำหรับคนลดความอ้วนหรือควบคุมน้ำหนัก การที่เมล็ดเจียมีไฟเบอร์สูง มีวิตามิน อีกทั้งยังมีคุณสมบัติพองตัว ซึ่งเมื่อกินเข้าไปแล้วก็จะทำให้เรารู้สึกอิ่ม ในขณะเดียวกันก็ให้แคลอรี่ต่ำ มีไฟเบอร์มาก ซึ่งเป็นสิ่งที่คนความอ้วนต้องการทุกอย่าง เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกใจเลยที่ตอนนี้คนไทยหันมาบริโภคเมล็ดเจียกันอย่างแพร่หลาย
ต้องกินเมล็ดเจียมากแค่ไหนถึงจะเหมาะสมไม่มากหรือน้อยเกินไป
ถึงแม้ว่าจะมีคุณประโยชน์ดีเลิศเพียงใด แต่การรับประทานอะไรที่มากเกินไปก็ย่อมส่งผลร้ายต่อสุขภาพเช่นกัน เพราะฉะนั้นเรามาลองดูกันดีกว่าว่าใน 1 วันเราควรจะรับประทานเมล็ดเสียมากเสียน้อยแค่ไหน ในสัดส่วนเท่าไหร่
·เด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี ควรบริโภคเมล็ดเจียประมาณ 1 ช้อนโต๊ะต่อวัน
·เด็กอายุตั้งแต่ 5-18 ปี ควรบริโภคเมล็ดเจียประมาณ 1.4 – 4.3 กรัมต่อวัน
·ผู้ใหญ่อายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไปควรบริโภคเมล็ดเจียประมาณ 2 ช้อนโต๊ะต่อวัน
·ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดควรบริโภคเมล็ดเจียแบบบดประมาณ 33 – 40 กรัมทุกๆ 3เดือน
โทษของเมล็ดเจียถ้ากินมากเกินไป
ถึงแม้ว่าเมล็ดเจียจะมีประโยชน์มากมาย แต่ถ้ากินมากเกินไปก็อาจมีโทษต่อร่างกายได้ก่อนจะทานอะไรที่คนส่วนใหญ่บอกว่าดี ก็ควรจะศึกษาถึงโทษของมันก่อน เพราะใช่ว่าสิ่งที่ดีเรานั้นจะดีกับทุกคนเสมอไป เช่นเดียวกันกับเมล็ดเจีย เมล็ดเชีย หรือ chia seed ที่กำลังฮิตในสังคมไทย
คนที่ไม่ควรกินเมล็ดเจีย
1. คนที่ต้องเตรียมตัวเข้ารับการผ่าตัดศัลยกรรม มีประวัติการใช้ยาแอสไพริน เนื่องจากการกินเมล็ดเจียจะทำให้หลอดเลือดบางลง ทำให้เลือดแข็งตัวช้าหรือว่าไหลไม่หยุด
2. คนที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบลำไส้และกระเพาะอาหาร กลดไหลย้อน รู้สึกแสบร้อนกลางทรวงอก เนื่องจากการที่เมล็ดเจียมีคุณสมบัติพองตัว จะยิ่งทำให้มีน้ำย่อยออกมามากขึ้น และทำให้อาการป่วยในระบบกระเพาะและลำไส้ของเรากำเริบได้
3. คนที่ป่วยเป็นโรคความดันโลหิตต่ำ ถ้ากินเมล็ดเจียมากเกินไปจะส่งผลต่อแรงดันเลือด จนอาจทำให้เกิดภาวะช็อกหรือหมดสติได้
4. ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ หรืออยู่ในระยะให้นมบุตรก็ไม่ควรรับประทานเมล็ดเจีย เพราะมันจะส่งผลต่อสารอาหารที่มีอยู่ในน้ำนม ให้เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม
5. คนที่กินอาหารเสริมวิตามินบี 17 พบว่าการกินเมล็ดเจียร่วมกับการทานอาหารเสริมวิตามินบี 17 ติดต่อกันเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดการสะสมสารไฟโตนิวเทรียนท์ และก่อให้เกิดโรคมะเร็ง
6. ไม่ควรรับประทานเมล็ดเจียติดต่อกันนานจนเกินไปเป็นเวลาหลายปี เพราะมันจะก่อให้เกิดอาการเสพติดและเลิกยาก
7. มีงานวิจัยว่าผู้ชายไม่ควรรับประทานเมล็ดเจียมากเกินไป เพราะมันอาจจะไปกระตุ้นให้เกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก แต่ทั้งนี้ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่

ขอบคุณข้อมูลจากwww. lady108.com