
นายสมชัย ถาวรรุ่งโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีทูเอส จำกัด กล่าวว่า ในปี 2559 บริษัทเตรียมงบลงทุน 1,000 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาใหม่ของร้าน B2S ประมาณ 6 สาขา เปิดไปแล้ว 1 สาขา ที่คอมมูนิตี้มอลล์ ถนนนางลิ้นจี่ และ
ล่าสุดเปิดร้าน B2S สาขาที่ 2 ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ "Think Space B2S" ที่ Central Festival Eastville ใช้งบลงทุน 400 ล้านบาทจากงบลงทุนรวมใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี มีขนาดพื้นที่รวม 2,600 ตารางเมตร ซึ่งเป็นหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและเอเชีย แปซิฟิก
ภายในร้านจะแบ่งออกเป็น 5 โซน ได้แก่ 1. LIFESTYLE BOOK SPACE พื้นที่ Book Terraces หนังสือไทยและต่างประเทศมากกว่า 100,000 เล่ม เป็นหนังสือภาษาไทยและอังกฤษ สัดส่วน 50:50 และยังแบ่งพื้นที่ย่อยได้อีกถึง 12 ไลฟ์สไตล์โซน โดยแบ่งเป็น ชั้นที่ 1 ประกอบไปด้วย Travel, Leisure, Craft
ในส่วนของชั้นลอยที่ 1. จะเป็นโซน Smart, Wisdom, ชั้นลอยที่ 2 จะเป็นโซน Fiction และชั้นที่ 2 จะเป็นโซน Cookery, Entertainment etc.,
Art & Design, Study, Work และ Family
2. ART X IDEA SPACE พื้นที่งานศิลป์สำหรับคนรักงานอาร์ต โดยจะมีผลงานของศิลปินคนไทยที่มีชื่อเสียงระดับโลก และ มีสเปซสำหรับสินค้าดีไซน์ที่ได้รางวัลไม่ว่าจะเป็น Furniture Design, Design Stationery และ Office Accessories 3. ENTERTAINMENT SPACE พื้นที่หนังและเพลง และห้อง Music Room ที่รวบรวมหนังและเพลงครบทุกประเภท ทั้งไทยและต่างประเทศที่หายาก
นอกจากนี้ยังสร้างเฟรมใหม่ให้นักฟังแผ่นเสียง และเครื่องเล่นไวนิล ทั้งยังเป็นการสืบทอดวัฒนธรรมการฟังดนตรีในยุคร่วมสมัย จาก อนาล็อค สู่ ดิจิทัล และยังมีร้านครื่องเสียงระดับพรีเมี่ยม B&O Play by Bang & Olufsen
4. PLAY X LEARN SPACE แหล่งรวมโรงเรียนสอนทักษะ เพื่อการเรียนรู้สำหรับเด็กและเสริมจินตนาการให้กับลูกน้อย เพื่อกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น
ซึ่งประกอบไปด้วยพื้นที่ชั้น 2 โซน Family และ 8 สถาบันแห่งการเรียนรู้ ได้แก่ Clayworks, Chefutown, Babies Genius, Kinderprep by Ivy Bound International School, I Genius, Helen Doron English, Yamaha Music School และ A Little Something
5. NETWORKING SPACE พื้นที่พบปะแลกเปลี่ยนความคิดและต่อยอดไอเดียใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น แบ่งบันประสบการณ์ Start Up เริ่มต้นสร้างแนวคิดธุรกิจ สร้างมิตรภาพ ก่อให้เกิดคอมมูนิตี้ของกลุ่มคนต่างๆ ได้มาร่วมสร้างสรรค์กิจกรรมหรือธุรกิจต่างๆ ร่วมกัน
ซึ่งโซนนี้จะอยู่บริเวณชั้น 2 ของร้าน เป็นพื้นที่อำนวยความสะดวกให้แก่ชีวิตลูกค้า เช่น Co-Working Space เป็นสเปซที่รองรับลูกค้าที่มาใช้บริการ ในการนั่งทำงาน คิดงาน เจรจาธุรกิจได้อย่างสะดวก รอบรับได้ถึง 60 - 70 ที่นั่ง และได้ร่วมมือกับ AIS ที่ให้บริการอินเตอร์เน็ตฟรีในพื้นที่
อีกทั้งยังมีพื้นที่สำหรับร้านอาหาร COVER ll COVER Eat & Drink ที่เป็นร้านคอลลาโบเรชั่นโปรเจ็กต์ร่วมกันระหว่าง “ธิงค์สเปซ บีทูเอส x เชฟพล ตัณฑเสถียร รวมถึงร้านคาเฟ่จากบาริสต้าชื่อดัง Amatissimo” ในคอนเซ็ปต์ร้านอาหารและคาเฟ่ต์รูปแบบใหม่ที่มีคอนเซ็ปต์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเมนูและหนังสือทำอาหารที่อยู่ภายในร้านบีทูเอส เพื่อให้ผู้รักการอ่านสามารถลิ้มรสชาติอาหารที่ออกมาจากหนังสือ
ทั้งนี้ บริษัทได้เริ่มทดลองเปิดบริการร้าน B2S คอนเซ็ปต์ใหม่ Think Space B2S มาประมาณกว่า 10 วัน มีลูกค้าเข้าใช้บริการในวันธรรมดา ประมาณ 3,000 คนต่อวัน และ 5,000 - 6,000 คนต่อวันในช่วงวันเสาร์ - อาทิตย์ ลูกค้าเป็นกลุ่มครอบครัว กลุ่มนักเรียน นักศึกษา และกลุ่มวัยเริ่มทำงานและทำงายอิสระ
ซึ่งคาดว่าจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น และมียอดใช้จ่ายของลูกค้ามากกว่าร้าน B2S รูปแบบปกติ:หลังจากการโฆษณา-ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ภายใต้งบการตลาด 150 ล้านบาท จากงบรวมทั้งปี 500 ล้านบาท โดยจะเน้นสร้างการรับรู้ ผ่านสื่อออนไลน์ 70% เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ใช้ 30% ตั้งเป้าจะมียอดขายจากร้าน B2S คอนเซ็ปต์ใหม่ ประมาณ 350 ล้านบาท ภายใน 1 ปี
โดยแบ่งเป็นสัดส่วนยอดขายจากกลุ่ม Book 40% และอีก 60% จากกลุ่ม Lifestyle product
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งปีหลังจะเปิดร้าน B2S สาขาใหม่ 4 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ปัจจุบันมีทั้งหมด 98 สาขา เป็นรูปแบบเดิม 97 สาขามีขนาดพื้นที่ 800 ตารางเมตรถึง 1,500 ตารางเมตรขึ้นไป และรูปแบบคอนเซ็ปต์ใหม่ Think Space B2S 1 สาขา ขนาดพื้นที่ 2,600 ตารางเมตร ภายในสิ้นปีนี้จะมีครบ 102 สาขา
ส่วนผลประกอบการรวมของ B2S ในปีื 2559 นี้บริษัทตั้งเป้ามียอดขายเติบโตเพิ่มขึ้น 7% จากปี 2558 มียอดขายเติบโต 6% ต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย เนื่องจากปีที่แล้ว มีการปิดและปรับรีโนเวทร้าน B2S จำนวน 8 สาขา และปัจจัยภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ค่อยดี ทำให้ลูกค้าชะลอการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น
ทั้งนี้ แผนการขยายสาขาของร้าน B2S ในรูปแบบ Think Space B2S สาขาใหม่จะต้องใช้เวลาศึกษาพฤติกรรมและผลตอบรับจากผู้บริโภคที่สาขาแรกก่อน โดยจะดูในเรื่อง Space ทำเลที่ตั้ง ในย่านชุมชนที่มีกำลังซื้อ หรือในอนาคตอาจจะเปิดเป็นรูปแบบ Compact Space ขนาดพื้นที่ 1,000 ตารางเมตรขึ้นไป