อาจารย์วิเชียร ผลวัฒนสุข ประธานเครือข่ายนมดีทุกวัยดื่มได้ทุกวัน เปิดเผยว่า “ผลสำรวจพฤติกรรมการดื่มนมของคนไทยประจำปี 2562 โดยสวนดุสิตโพลพบว่า ปัจจุบันเยาวชนไทยอายุ 13-20 ปี มีการบริโภคนมลดลงกว่าครึ่งจากสัดส่วน 89% เหลือเพียง 44% เมื่อเทียบกับเด็กวัยอนุบาลและประ ถมศึกษา ส่วนในกลุ่มผู้สูงวัย 60 ปี ขึ้นไปนั้นพบว่า มีสัดส่วนที่ไม่ดื่มนมโคเลยถึง 1 ใน 4 จากผู้ที่เข้าร่วมการสำรวจ โดยกลุ่มผู้ที่ไม่บริโภคนมโคนั้นหันไปดื่มนมถั่วเหลือง 43% เครื่องดื่มกาแฟ 22% และนมเปรี้ยว 14% ตามลำดับ จากสาเหตุหลักของความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับการดื่มนม
และความไม่มั่นใจในคุณภาพของน้ำนมโค ส่งผลให้อัตราการดื่มนมของคนไทยยังคงมีปริมาณน้อยมากเฉลี่ยเพียงคนละประมาณ 18 ลิตร/คน/ปี (หรือเพียงสัปดาห์ละ 2 แก้วเท่านั้น) ทั้งนี้ เครือข่าย “นมดีทุกวัย ดื่มได้ทุกวัน” มีเป้าหมายรณรงค์ให้คนไทยทุกวัยดื่มนมโคอย่างน้อยวันละ 1-2 แก้ว/วัน เป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ”
ทั้งนี้ สสส โดย ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้อำนวยการ สำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ ในฐานะหน่วยงานที่ผลักดันรณรงค์สร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับคนไทยในเรื่องเกี่ยวกับสุขภาพโดยตรง เป็นแกนหลักในการสนับสนุนผ่าน “เครือข่ายนมดีทุกวัย ดื่มได้ทุกวัน” ภายใต้แนวคิด “มิลค์ ฟอร์ ออล” – Milk for Alls ให้คนไทยได้ดื่มนมตามความเหมาะสมของแต่ละช่วงอายุ นมมีคุณภาพดี เพื่อให้ร่างกายมีสุขภาพที่แข็งแรง มีผลดีต่อสุขภาพ สามารถทดแทนการดื่มเครื่องดื่มอื่นที่ไม่มีประโยชน์ เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลเกิน อาทิ เครื่องดื่มชา และน้ำอัดลม พร้อมทั้ง รณรงค์ให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการดื่มนม
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่หลีกเลี่ยงไม่ดื่มนม เพราะเชื่อว่านมทำให้อ้วนนั้น ความจริงแล้วไม่ว่าจะเป็น นมสด นมพร่องไขมัน หรือนมไม่มีไขมัน มีปริมาณไขมันเพียงแค่ 3.9%, 1.7% และ 0.3% ตามลำดับ จึงตัดความกังวลหันมาดื่มนมเพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงได้กันถ้วนหน้า
ในฐานะที่ปรึกษากรมอนามัย และผู้ทรงคุณวุฒิ สสส. อาจารย์สง่า ดามาพงษ์ ให้แง่คิดในบทบาท เครือข่าย “นมดีทุกวัย ดื่มได้ทุกวัน” จะต้องผลักดันแนวคิด “มิลค์ ฟอร์ ออล”–Milk for Alls ให้เป็นรูปธรรม ให้คนไทยตระหนักเห็นคุณค่าของการดื่มนมเพื่อสุขภาพ ซึ่งจะได้กำหนดแผน การขับเคลื่อน การรณรงค์การดื่มนมในกลุ่มวัยต่างๆ ทั้งในระยะสั้นและระยาวอย่างต่อเนื่องต่อไป
นางสาวดุจเดือน ศศะนาวิน รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ น.สพ.นิพนธ์ ตันติพิริยะพงศ์ นายกสมาคมนิสิตเก่าสัตวแพทย์ศาสตร์ ม. เกษตรศาสตร์ ได้ร่วมกันตอกย้ำความเชื่อมั่นว่า.. ปัญหาและสาเหตุของการบริโภคในอัตราต่ำดังกล่าว เกิดจากความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยว กับการดื่มนมและความไม่มั่นใจในคุณภาพของน้ำนมโค ซึ่งหน่วยงานทุกภาคส่วนดังกล่าวข้างต้น ได้ประสานความร่วมแรงร่วมใจ โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กำหนดให้มีมาตรฐานฟาร์ม ทางสัตวแพทย์สมาคมจะทำงานร่วมกับศูนย์นมและสหกรณ์โคนม เพื่อช่วยให้แม่โคมีสุขภาพดี มีการจัดการที่ถูกต้องตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ เพื่อที่จะได้น้ำนมโคที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน และปลอดภัยต่อการบริโภค อีกทั้ง ในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ ยังมีการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ในการสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรโคนมไทย รวมถึง เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมนม ให้เจริญก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นไป เพื่อสุขภาพทางร่างกายและสุขภาพทางเศรษฐกิจโดยถ้วนหน้า
|