ทั้งนี้ ซีพี ออลล์ ผู้ก่อตั้งร้านเซเว่น อีเลฟเว่น และทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง จะยังคงมุ่งมั่นช่วยเหลือและพัฒนาคุณภาพของเอสเอ็มอีอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีสินค้าเอสเอ็มอีกว่า 20,000 รายการ มาวางจำหน่ายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น และทเวนตี้โฟร์ ช้อปปิ้ง จากเอสเอ็มอีและเกษตรกร กว่า 50,000 ครอบครัว โดยจะได้รับคำแนะนำในการพัฒนาด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งมาตรฐานสินค้า ความปลอดภัย ราคา ความต่อเนื่องในการผลิต การนำเทคโนโลยีมาใช้
นอกจากการมอบรางวัลเซเว่น อีเลฟเว่น เอสเอ็มอีไทยยั่งยืนแล้ว งานวันแห่งโอกาสดี@CP ALL 2020 ในครั้งนี้ ยังได้มอบโอกาสสุดพิเศษให้แก่เหล่าเอสเอ็มอีอีกหลากหลายด้าน อาทิ เสวนาพิเศษหัวข้อ “SME Key Success : สำเร็จได้ ถ้ารู้เคล็ดลับ” โดยเอสเอ็มอีหลากหลายประเภทสินค้าที่ประสบความสำเร็จทั้งในระดับท้องถิ่นและในระดับประเทศ และเสวนาพิเศษหัวข้อ “จะขายสินค้ากับเซเว่นฯ และ 24 Shopping ให้รุ่งต้องทำอย่างไร” โดยวิทยากรที่ดูแลเรื่องการนำสินค้าเข้ามาวางจำหน่ายในเซเว่น อีเลฟเว่น และ24 shopping โดยตรง
ด้าน ดร.วิมลกานต์ โกสุมาศ รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า สำนักงานในฐานะหน่วยงานกลางที่ทำหน้าที่บูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในการสนับสนุนและส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมของประเทศ ซึ่งขณะนี้มีจำนวนกว่า 3 ล้านราย ยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินมาตรการการส่งเสริมผู้ประกอบการฯ ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และสามารถเข้าถึงผู้ประกอบการได้ทุกพื้นที่ ผ่านทางศูนย์ให้บริการ SME ของ สสว. โดยมีมาตรการที่สำคัญที่เรียกว่า MSME 2020 เน้นการส่งเสริม SME รูปแบบใหม่ ดังนี้ 1.การปรับสถานะกองทุนภาครัฐที่เป็นแหล่งเงินทุนสำหรับ MSME ให้เป็นเงินทุนหมุนเวียน 2.พัฒนาระบบการให้ความรู้ในการดำเนินธุรกิจแบบครบวงจร (SME Academy 365)
3.ระบบคูปองเพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับวิสาหกิจรายย่อยและวิสาหกิจชุมชน 4.พัฒนากลไกกลางในการพัฒนาช่องทางการตลาดให้แก่ MSME 5.มาตรการ MSME ล้มแล้วลุก ลดอุปสรรคในการฟื้นฟูธุรกิจ 6.พัฒนาระบบประเมินศักยภาพ SME และฐานข้อมูล (SME Big Data) 7.พัฒนาระบบการให้เอกชนสามารถเป็นหน่วยงานในการให้การส่งเสริม MSME 8.ถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมการพัฒนาระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) นอกจากมาตรการดังกล่าวแล้ว สสว. ยังอยู่ในระหว่างร่วมกับกรมบัญชีกลางผลักดันให้ SME เข้าสู่กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐเพื่อสามารถสร้างรายได้ที่ยั่งยืนและลดการพึ่งพาตลาดหลัก ในส่วนของรางวัลเซเว่น อีเลฟเว่น เอสเอ็มอีไทยยั่งยืน 2562 นับเป็นการส่งเสริมให้เกิดต้นแบบของธุรกิจ SME ซึ่งมีผลิตภัณฑ์และการบริหารจัดการที่ดีจนสามารถขยายตลาดผ่านสาขาของร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ และจะก่อให้เกิดแรงบันดาลใจให้แก่ SME รายอื่นต่อไป
ด้าน ดร.อริยาพร อำนรรฆสรเดช นักวิเคราะห์นโยบายและแผนเชี่ยวชาญ รักษาการแทนผู้อำนวยการกองพัฒนาขีดความสามารถธุรกิจอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กล่าวว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม มีนโยบายพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs และวิสาหกิจชุมชน ภายใต้แนวคิด “ปั้น ปรุง เปลี่ยน เอสเอ็มอีให้ ดีพร้อม (DIProm)” โดยการ “ปั้น” มีแนวทาง 3 ด้าน คือ 1.ปั้น เอสเอ็มอีเกษตรอุตสาหกรรม จากเกษตรดั้งเดิมสู่นักธุรกิจเกษตรสมัยใหม่ 2.ปั้น เอสเอ็มอีบนพื้นฐานของการใช้องค์ความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ และทรัพย์สินทางปัญญา 3.ปั้น เอสเอ็มอี ให้มีประสิทธิภาพ ผ่านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอัจฉริยะในการทำธุรกิจ ส่วนคำว่า “ปรุง” เป็นการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อช่วยกันปรุงมาตรการส่งเสริมอุตสาหกรรมไปสู่ภูมิภาค และสุดท้ายคือการ “เปลี่ยน” วิธีการทำงานเพื่อส่งเสริมและพัฒนาเอสเอ็มอีในทุก ๆ อุตสาหกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ได้ร่วมกับซีพี ออลล์ในการมอบรางวัลครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นเรื่องน่ายินดี ที่ได้ช่วยเชิดชูเอสเอ็มอีหลากหลายกลุ่ม รวมไปถึง SME สินค้าเกษตร ให้มีความภาคภูมิใจ มีพื้นที่ในการเติบโต และกลายเป็นเอสเอ็มอีต้นแบบ เป็นแนวทางให้เอสเอ็มอีรายอื่นๆ พัฒนาตัวเองขึ้นมาจนกลายเป็นเอสเอ็มอีที่ดีพร้อม สร้างรายได้กลับสู่ทั้งตัวเอง ชุมชน และเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากต่อไป
รายชื่อเอสเอ็มอีที่ได้รับรางวัล 10 ประเภท รวมจำนวน 21 รางวัล ประกอบด้วย
1. SME ยั่งยืน ได้แก่
- เฉาก๊วย “ปุ้น& เปา” จาก ห้างหุ้นส่วนจำกัด ชลกิจปทานผล
- ขนมหวาน “คุณเก๋” จาก บริษัท คุณเก๋ ขนมหวาน จำกัด
- ขนมหวาน “เจ้าจุก” จาก บริษัท เอ็นเอ็นซี.โปรดักส์ จำกัด
- สกินแคร์ “Nami” จาก บริษัท เค แอนด์ บี คอสเมติก จำกัด
2. SME ยอดเยี่ยม ได้แก่
- ยาและอาหารเสริมกลุ่มสมุนไพร “Handy Herb” จาก บริษัท แฮนดี้เฮลท์ จำกัด
- ผลิตภัณฑ์ “จุฬาเฮิร์บ” จาก บริษัท เจแอลซี กรุ๊ป จำกัด
3. SME ดาวรุ่ง ได้แก่
- ขนมหวาน “บ้านทองหยอด” จาก บริษัท บีทีวาย ฟู้ดส์ จำกัด
- ผลิตภัณฑ์ “รอยัลบิวตี้ คอลลาเจน” จาก บริษัท สหไทยพัฒนภัณฑ์ (ไลฟ์สตอรี่) จำกัด
4. SME สินค้าเกษตร ได้แก่
- ผลไม้ดอง “ศรีเมือง” จาก ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศรีเมือง 12490
- กล้วยหอมทอง จาก คุณภักดี เดชจินดา
5. SME เพื่อชุมชน ได้แก่
- นมถุง “หนองโพ” จาก สหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี จำกัด (ในพระบรมราชูปถัมภ์)
- กล้วยตากพลังงานแสงอาทิตย์ จาก บริษัท บานาน่าโซไซตี้ จำกัด
- หมวกผ้าและของที่ระลึก “เอทู” จาก บริษัท เอทู จำกัด
6. SME ความคิดสร้างสรรค์ ได้แก่
- เครื่องเขียน “KIAN DA” จาก บริษัท บีซีแอล 2002 จำกัด
7. SME ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ได้แก่
- ยาสมุนไพร “โบว์แดง” จาก ห้างหุ้นส่วนจำกัด ห้างขายยาห้องยาเภสัช
- อาหารเสริม สมุนไพร จาก บริษัท เฮิร์บ พลัส จำกัด
8. SME ยั่งยืนด้านพัฒนาอุปกรณ์และก่อสร้างร้านสาขา ได้แก่
- บริษัท โมดูล่าร์ คอมพาวด์ จำกัด
- บริษัท ซีเอช มอร์แกน จำกัด
9. SME ยั่งยืนด้านงานระบบวิศวกรรม ได้แก่
- บริษัท เก่ง เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
- บริษัท คอมเรด เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
10. SME ยั่งยืนด้านงานบริการร้านสาขา ได้แก่
- บริษัท คิงส์ เซอร์วิส เซ็นเตอร์ จำกัด
|