ขณะที่ผลประกอบการในงวดครึ่งปีแรก (มกราคม-มิถุนายน 2563) บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,420.89 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ 64.5 ล้านบาท อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ได้มุ่งเน้นการบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อรับมือความผันผวนของราคาวัตถุดิบ ขณะเดียวกันก็ได้เพิ่มความหลากหลายของกลุ่มสินค้ามากขึ้น ถือว่าเป็นปีที่ท้าทายในการบริหารงานเป็นอย่างมาก
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจอาหารพร้อมรับประทาน (RTE-QSR) กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ได้มุ่งเน้นกลยุทธ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารไทยและอาหารพื้นเมืองให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศตามวิสัยทัศน์ ‘การเป็นบริษัทอาหารไทย…เพื่อทุกชีวิตที่ดีขึ้น’ โดยใช้ความชำนาญในการผลิตอาหารต่อยอดเข้าสู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ พร้อมเดินหน้าปรับเปลี่ยนรูปแบบบรรจุภัณฑ์ เพื่อดึงดูดความสนใจกลุ่มผู้บริโภคหลากหลาย รวมถึงการเพิ่มคุณภาพสินค้ากระจายสู่กลุ่มลูกค้าใหม่มากขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้รุกแผนขยายร้านอาหารในเครือของ ส.ขอนแก่น ในลักษณะการขายแฟรนไชส์ประเภทร้าน "Food Truck" ร้าน Zaap Classic และร้านข้าวขาหมูยูนนาน ซึ่งได้เริ่มนำร่องในประเทศไทยแล้ว และในอนาคตข้างหน้ามีแผนขยายจำนวนรถฟู้ดทรัคมากขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจมีความสมดุลตั้งแต่ต้นน้ำไปถึงปลายน้ำ และเพื่อเป็นจุดกระจายสินค้าให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ได้มุ่งเน้นการพัฒนาโมเดลใหม่ๆ ในการขายสินค้าอาหารพื้นเมืองผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น เว็บไซต์ E-Commerce (shop.sorkon.co.th) และขายผ่านแพลตฟอร์ม Online Market Place อย่าง Shopee พร้อมพัฒนาระบบหลังบ้านซึ่งเป็นการบันทึกข้อมูลพฤติกรรมการซื้อสินค้าแต่ละกลุ่มลูกค้า เพื่อนำมาวิเคราะห์และกำหนดแผนการตลาดให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ดังนั้น เมื่อนำระบบแพลตฟอร์มที่มีความทันสมัยเข้ามาช่วย จึงสามารถกระตุ้นยอดขายได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วมากขึ้น เดินหน้าลุยธุรกิจ Food Delivery ที่ในปัจจุบันมีอัตราเติบโตขึ้นหลายเท่าตัว โดยลูกค้าสามารถสั่งอาหารแบบ Takeaway ผ่านแอพพลิเคชันออนไลน์ (Delivery) อาทิ GrabFood, LINE MAN และ foodpanda ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก
|