“รูปแบบการดำเนินชีวิตของผู้บริโภคในปัจจุบัน รวมถึงการนิยมสั่งซื้ออาหารสะดวกซื้อมากขึ้นนั้น นับว่าเป็นสิ่งที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของบรรจุภัณฑ์อาหาร ซึ่งปัจจุบัน SCGP มีฐานการผลิตบรรจุภัณฑ์อาหารในมาเลเซียและไทย โดยมีตลาดหลักในภูมิภาคอาเซียนและญี่ปุ่น การเข้าซื้อหุ้น Go-Pak จะเสริมความแข็งแกร่งของฐานลูกค้าในตลาดสหราชอาณาจักร ยุโรป และอเมริกาเหนือ รวมทั้งยังเป็นการเสริมศักยภาพการแข่งขันด้วยการเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และขยายฐานการผลิตทั้งในและนอกภูมิภาคอาเซียน โดยการลงทุนของ SCGP ใน Go-Pak ครั้งนี้ สอดคล้องกับกลยุทธ์การขยายการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนและภูมิภาคอื่น ๆ ควบคู่ไปกับการขยายฐานลูกค้าที่เป็นตลาดผู้บริโภค และเพิ่มขีดความสามารถการผลิตบรรจุภัณฑ์ขั้นปลาย เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำด้านบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร” นายวิชาญกล่าวเพิ่มเติม
Go-Pak ก่อตั้งขึ้นในปี 2552 และมีการเติบโตทางธุรกิจอย่างก้าวกระโดดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยในช่วง 12 เดือนล่าสุด (ไตรมาสที่ 4/2562-3/2563) Go-Pak มีรายได้ 68.7 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง (ประมาณ 2,800 ล้านบาท) มีมูลค่าสินทรัพย์ 40.7 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง (ประมาณ 1,650 ล้านบาท) เมื่อสิ้นสุดไตรมาสที่ 3/2563 และมีกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์อาหาร 4 พันล้านชิ้นต่อปี ด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายกว่า 250 ประเภท
|